ความสว่างและการหยุดนิ่งในใจ MD 204 สมาธิ 4  หน้า 83
หน้าที่ 83 / 106

สรุปเนื้อหา

เมื่อหยุดได้ที่ความสว่างจะบังเกิดที่ศูนย์กลางกาย การหยุดนิ่งจะนำมาซึ่งความสุข ความแจ่มใส ความรู้สึกเบิกบานภายใน เป็นกระบวนการที่คล้ายกับการตกวูบลงไปในศูนย์กลางกาย ซึ่งจะทำให้พบความบริสุทธิ์และความสุขที่แท้จริง ดวงธรรมจะช่วยปฏิรูปใจให้มีคุณภาพมากขึ้น และเต็มไปด้วยความสุขใจที่เหนือกว่า สิ่งที่เคยรบกวนเรา ด้วยความหยุดนิ่งที่เพิ่มขึ้น ดวงธรรมกลางกายจะขยายตัวและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระดับที่เราสามารถสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากใจที่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์ต่างๆ ความบริสุทธิ์นี้จะทำให้ใจสามารถสัมผัสความสุขภายในได้เต็มที่ รวมไปถึงการเห็นคุณค่าของความสงบที่เกิดจากการเจริญสมาธิ ผ่านการตรึกระลึกเข้ากับดวงธรรมได้เป็นอัตโนมัติ

หัวข้อประเด็น

- การค้นพบความสว่างภายใน
- การหยุดนิ่งของใจ
- ความสุขที่เกิดจากจิตใจ
- ดวงธรรมและการโยงใยทางจิต
- สุขภาพจิตและการเจริญสมาธิ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เมื่อหยุดได้ที่ความสว่างจะค่อยๆ บังเกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกาย เริ่มต้นจากสว่างเพียงเล็กน้อย เหมือนฟ้าสาง จนกระทั่งสว่างเหมือนเที่ยงวัน เป็นความสว่างที่มาพร้อมกับความสุขสบาย ความสว่าง จะเจิดจ้าแจ่มใส ไปตามลำดับของการหยุดนิ่งของใจ เป็นความสุข ความแจ่มใส แช่มชื่นเบิกบาน ที่ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็น เพราะเป็นความสว่างภายใน ที่จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อใจของเราหยุดนิ่งอย่าง ละเอียดอ่อนแล้วเท่านั้น เมื่อหยุดนิ่งอย่างนี้ยิ่งขึ้นไปอีก เห็น จำ คิด รู้ จะยิ่งสนิทกันอย่างถูกส่วนจนกระทั่งใจตกศูนย์ ตกวูบเข้าไปในศูนย์กลางกาย เป็นความรู้สึกคล้ายถูกผลักตกจากที่สูงหรือคล้ายนั่งอยู่ปากเหวแล้วตกวูบ ลงไป พอตกวูบลงไปเท่านั้น ความบริสุทธิ์เบื้องต้นก็จะปรากฏให้เห็นด้วยใจ เป็นดวงใสสว่างขนาดตั้งแต่ ดวงดาวเล็กๆ บนท้องฟ้า ดวงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ จนกระทั่งโตขนาดดวงอาทิตย์ ดวงกลมใสสว่างดวงนี้เรียกว่า ดวงปฐมมรรค หรือดวงธรรม อันเป็นหนทางเบื้องต้น ของพระอริยเจ้า จากนี้เป็นต้นไป หากรักษาความหยุดนิ่งต่อไปได้ จะมีความรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา คือ ใจจะ อยู่กับตัวอย่างเต็มที่ เป็นการมีสติที่แท้จริง ไม่ต้องใช้ความพยายามในการนั่ง มีทั้งสติและสัมปชัญญะ ต่อเนื่องกันไปไม่ขาดตอน อยู่ตรงกึ่งกลางของดวงธรรมนั้นนั่นเอง ณ จุดนี้ ควรทำให้ได้ทุกเวลา ทุกวันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะทำอะไร ลืมตาหรือหลับตาให้ ตรึกระลึกถึงดวงธรรมกลมๆ ใสๆ อย่างสบายๆ เสมอ ยิ่งสบายเท่าไรจะยิ่งตรึกระลึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ มากเท่านั้น ต้องทำให้เกิดความชำนาญ คือ ตรึกตลอดเวลาควบคู่ไปกับลมหายใจ จนกลายเป็นอัตโนมัติ แม้ไม่ได้นึก ก็สามารถเห็นได้จนกลมกลืนกันไปกับชีวิตประจำวัน เช่นเดียวกับลืมตาแล้วมองเห็น ท้องฟ้า ต้นไม้ คน สัตว์ สิ่งของ ฉะนั้น ถ้าสามารถทำให้หยุดนิ่งยิ่งขึ้นไปอีก จุดสว่างจะยิ่งขยายตัวกว้างออกไป ใหญ่โตเท่ากับพระจันทร์ วันเพ็ญหรือพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน ทั้งสุกใส ทั้งโตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ดวงธรรมกลางกายยิ่งโต ยิ่งขยาย ออกไปมากเท่าไร ความสุข ความบริสุทธิ์ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น มากจนเกิดความรู้สึกว่ากายใจของเรา บริสุทธิ์ เกลี้ยงเกลาทั้งภายนอกภายใน สว่างจนกลมกลืนกันไปหมด ทั้งความรู้สึกที่กายหยาบกับ ความใสสว่างที่ศูนย์กลางกาย เป็นความบริสุทธิ์ที่แท้จริงของดวงจิต ความบริสุทธิ์ที่มากับความสุข ความใสสว่างที่ทำให้ใจแจ่มกระจ่างสดใส สดชื่น และมีพลังไม่รู้จบ ในที่สุดเราก็จะสัมผัสได้กับแหล่งที่ทำให้ใจมีคุณภาพ สามารถรู้ได้ด้วยตัวเองอย่างแจ่มชัด ถึงความแตกต่างจากใจเดิมสมัยที่ยังถูกครอบงำด้วยกามฉันทะ ความพยาบาท ความลังเลสงสัย ง่วงเหงา หาวนอน ท้อถอย ตลอดจนความฟุ้งซ่านรำคาญใจ ความบริสุทธิ์นี้สามารถทำให้รู้ได้ด้วยตัวเองว่า ใจที่ถูกครอบงำมาแต่เดิมเช่นนั้น ไม่สามารถเข้าถึง หรือสัมผัสความสุขภายใน รองรับความสุขไม่ได้ มีแต่ความสับสนวุ่นวายและไม่มีคุณภาพ ดวงธรรมจะทำหน้าที่กลั่นกรองใจให้มีคุณภาพ รองรับความสุขได้เต็มที่ ยิ่งใจสบาย ใจจะยิ่งหยุดนิ่ง ยิ่งเกลี้ยงเกลา ยิ่งถูกส่วนขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป คล้ายเวลากล่อมเด็กให้นอนหลับ ใจจะถูก กล่อมอย่างนุ่มนวลด้วยความบริสุทธิ์ สว่างใส จนนิ่งเบา รู้สึกเพลิดเพลิน ไม่เบื่อหน่าย เห็นคุณค่าของ 74 DOU สมาธิ 4เทคนิคการทำสมาธิเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More