การเห็นภาพองค์พระภายในและการเข้าใจในธรรมะ MD 204 สมาธิ 4  หน้า 69
หน้าที่ 69 / 106

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงวิธีการเห็นภาพองค์พระภายในผ่านการปฏิบัติธรรม การเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเห็นนิมิต และสิ่งที่จะช่วยให้การเห็นภายในดีขึ้น รวมถึงการเน้นความต่อเนื่องและความสบายใจ ซึ่งจะช่วยให้การนึกถึงภาพนั้นเข้มขึ้นและคมชัดมากขึ้น โดยมีการเปรียบเทียบการเห็นภายในกับการเห็นภายนอก เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของใจในการเห็นธรรมะ. จุดมุ่งหมายคือการสร้างความเข้าใจในกระบวนการเห็นภายในและวิธีการสร้างความชัดเจนในการปฏิบัติธรรม.

หัวข้อประเด็น

-การเห็นภาพองค์พระภายใน
-ความเข้าใจในการปฏิบัติธรรม
-การสร้างนิมิตในใจ
-การปรับปรุงการเห็นภายใน
-ความต่อเนื่องและความสบายใจในการปฏิบัติ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

5.1.3 ตัวอย่างการเห็นภาพองค์พระภายใน ถ้านึกเป็นองค์พระก็เหมือนจำลองพระแก้วใสๆ มาอยู่ในกลางท้อง แต่ว่าจะมีแต่ความใสอย่างเดียว ใสทึบๆ ใสเหมือนกระจกใสเหมือนน้ำแข็ง เมื่อจิตของเราละเอียดมากกว่านี้ไปเรื่อยๆ นิมิตนั้นจะมั่นคงยิ่งขึ้น จากความใสธรรมดาก็ค่อยๆ เริ่มใสมีแสง ค่อยๆ มีความสว่างออกมาทีละน้อย เหมือนเอาวัตถุที่เป็นแก้ว เป็นเพชรไปตั้งไว้กลางแดด เมื่อกระทบแสงก็มีความสว่างออกมา แต่เป็นความสว่างที่ไม่แสบตา ดูแล้วเย็นตา เย็นใจ พอถึงขั้นนี้ภาพนิมิตจะเปลี่ยนไป จากตอนแรกที่นึกสร้างเป็นมโนภาพ ก็เปลี่ยนเป็นการเห็นจริง เห็นเหมือนวัตถุภายนอก 5.1.4 ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของการเห็น ผู้ปฏิบัติมักไม่คุ้นกับการนึกด้วยใจ เมื่อเอามาใช้ในการปฏิบัติธรรม นึกดวงแก้ว นึกองค์พระ มักไม่ ยอมรับ คิดว่านึกเห็น จริงๆ แล้ว การเห็นธรรมะเห็นได้ด้วยใจเท่านั้น อาจจะน้อยกว่าลืมตาเห็น เท่ากับ ลืมตาเห็นหรือมากกว่าลืมตาเห็น เนื่องจากการเห็นภายในจะค่อยเป็น ค่อยไป ค่อยๆ เห็น ค่อยๆ ชัด ค่อยๆ เป็น ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บ เห็นชัดขึ้นมาเลย ตรงนี้ที่เราไม่คุ้น และมักอดทนกันไม่ค่อยได้ ใจเย็นไม่พอ พอไม่ค่อยชัด ก็ใช้วิธีทางโลก ที่คุ้นเคย คือ ใช้กำลังบังคับ ไปลุ้น เร่ง เพ่ง จ้อง ทำให้ไม่สมหวัง นอกจากนี้ยังมีบางท่านกล่าวว่า การเห็นภายในก็คือการติดนิมิต ซึ่งในที่นี้อยากจะชี้แจงให้เข้าใจว่า การเห็นภายในนั้นคล้ายกับการเห็นภายนอกอยู่อย่างหนึ่งคือ เมื่อแสงสว่างเกิดขึ้น แสงสว่างเป็นเครื่องมือเป็น อุปกรณ์ให้เราได้เห็นนิมิต ได้เห็น คน สัตว์ สิ่งของ เราไม่ได้ติดในแสงสว่างนั้น เพราะแสงนั้นมีเพียงแค่ให้ เห็นให้ดูเท่านั้น เมื่อแสงสว่างเกิดขึ้น เราเห็นต้นไม้ ก็ไม่ใช่หมายถึงว่าเราจะต้องติดต้นไม้ เห็นรถ เห็นคน เห็นตึกรามบ้านช่อง เราไม่ได้คิดอะไรสักสิ่งเลย เป็นแต่เพียงว่าเราได้เห็น เห็นสิ่งนั้น สิ่งนี้เท่านั้น การเห็น ภายในก็เช่นเดียวกัน เมื่อใจหยุดถูกส่วน แสงสว่างบังเกิดขึ้น แสงสว่างนั้นก็เป็นเครื่องมือให้เราได้เห็น สิ่งที่มีอยู่แล้ว เช่น ดวงธรรม กายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ กายพรหม กายอรูปพรหม หรือกายธรรม เพราะฉะนั้น มีให้ดู แต่เราไม่ได้ติดอะไร คือ มีอะไรให้ดูก็ดูไปเรื่อยๆ ตามเห็นกันไปเรื่อยๆ ดูไปอย่างสบายๆ 5.1.5 สิ่งที่ช่วยให้การเห็นภายในดีขึ้น 1) ความต่อเนื่อง ต้องมีชั่วโมงวางใจตรงกลางให้มากๆ นึกถึงบริกรรมนิมิตบ่อยๆ ในทุกอิริยาบถ เมื่อทำได้อย่างนี้ใจจะคุ้นกับศูนย์กลางกาย ไม่ช้าความสมหวังก็จะเกิดขึ้น 2) ความสบาย ความสบายใจจะช่วยให้การนึกถึงภาพนั้นได้ต่อเนื่อง แล้วจะช่วยให้ภาพนั้นเข้มขึ้น คมชัดขึ้น แล้วในที่สุดจะมาถึงจังหวะหนึ่ง คือใจหยุด ตอนที่นึกแรกๆ ใจเย็นจะยังไม่หยุด แต่ใจจะอยู่ที่ ศูนย์กลางกาย อยู่อย่างต่อเนื่อง เมื่อเราเพิ่มความสบายใจในการนึก ใจที่อยู่แล้วจะอยู่นานขึ้นๆ จนกระทั่ง - พระราชภาวนาวิสุทธิ์, พระธรรมเทศนา, 5 พฤศจิกายน 2538. 60 DOU สมาธิ 4 เทคนิคการทำสมาธิเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More