ข้อความต้นฉบับในหน้า
4. ทำใจให้แช่มชื่น เบิกบาน สะอาด บริสุทธิ์และผ่องใส
5. เมื่อสบายดวงแก้วจะใสแจ๋ว นิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกาย แม้ว่าจะยังไม่เห็นจุดกึ่งกลางก็ตาม รู้สึก
ไม่ได้ใช้กำลัง
6. ให้รักษาอารมณ์สบายก่อนที่จะนั่ง จนเกิดความรู้สึกอยากนั่ง มีความพอใจในการนั่ง เห็นไม่เห็น
เป็นเรื่องรอง
7. ในการทำสมาธิ เราต้องรักษาอารมณ์สบายให้แช่มชื่นเบิกบาน ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน
โดยประคองใจอย่างแผ่วเบาที่ศูนย์กลางกาย ไม่คิดหวังผลใดๆ แม้ว่าเราจะประคองได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
ก็ไม่ต้องหงุดหงิด หรือกังวลใดๆ ขอเพียงให้ประคองใจสบายๆ ใจเย็น เราก็จะเข้าถึงจุดที่ปรารถนา
8. อารมณ์สบายจะต้องฝึกกันทั้งวันและทุกวัน พูดถึงเรื่องสบาย ทำเรื่องที่สบาย นึกแต่เรื่องที่สบาย
แล้วอารมณ์สบายจะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ โดยไม่ต้องฝืนหรือพยายามที่จะต้องทำ
2.2.5 ประโยชน์ของความสบายต่อการทำสมาธิ
ประการแรก ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดๆ คือ “ความสบายทำให้ลมหายใจละเอียด” ในขณะที่ความตึง
ความเครียด การใช้ความพยายาม ความตั้งใจ ทำให้ลมหายใจหยาบและติดขัด อัดแน่น เช่น หายใจแรง
หายใจหอบ หายใจไม่สะดวก เหล่านี้คือสิ่งที่เรียกว่า อาการหยาบ ของลมหายใจ มีผลทำให้ใจไม่สามารถ
แตะหรือสัมผัสจุดศูนย์กลางได้ ถึงแตะได้ก็ไม่แนบสนิท แตะแบบตึงๆ กดๆ หรือเป็นความรู้สึก ดึงๆ ทั้งๆ
ไม่เกิดความรู้สึกประชิดระหว่างใจกับศูนย์กลางกาย เวลาแตะหรือนึกถึงศูนย์กลางกายไม่เกิดความสบาย
ไม่รู้สึกชื่นใจ ทั้งๆ ที่ศูนย์กลางกายเป็นแหล่งที่ความสุขทั้งปวงมาไหลมาประมวลกัน
ประการที่สอง ความสบายทำให้ไม่เกิดความหน่วง หรือ ติดกับกายหยาบจนส่งผลถึงอารมณ์ เช่น
หงุดหงิดกับสิ่งรอบตัวจนรู้สึกร้อนไปหมด ตั้งใจ เกร็งใจจนรู้สึกแข็งเย็นอยู่ในช่องท้อง แม้กระทั่งทำให้
ไม่ต้องเหนื่อยในการที่จะต้องต่อสู้จัดการกับตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง
กิจกรรม
หลังจากนักศึกษาได้ศึกษา บทที่ 2 หลักสำคัญของการนั่งสมาธิ จบโดยสมบูรณ์แล้ว
โปรดทำแบบประเมินตนเองหลังเรียนบทที่ 2 และกิจกรรม ในแบบฝึกปฏิบัติบทที่ 2
แล้วจึงศึกษาบที่ 3 ต่อไป
28 DOU สมาธิ 4 เทคนิคการทำสมาธิเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย