ข้อความต้นฉบับในหน้า
1. สถานที่เที่ยวกลางคืน
การเที่ยวกลางคืน หมายถึงการไปเที่ยวเตร็ดเตร่หาความสำราญในเวลากลางคืน ตามแหล่งบริการ
ที่ส่งเสริมให้เกิดตัณหาราคะ ความกำหนัดและกามารมณ์ ปัจจุบันแหล่งบริการประเภทนี้มีอยู่มากมาย
ทั้งในเมืองใหญ่และในชนบท และมีชื่อเรียกต่างๆ กันไป เช่น บาร์ ผับ อาบอบนวด ดิสโก้เธค ไนต์คลับ ฯลฯ
2. สถานที่ที่มีการละเล่น
การดูการละเล่น หมายถึงการดูมหรสพต่างๆ นั่นเอง จึงเข้าใจว่า พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงห้าม
เรื่องนี้โดยเด็ดขาด อาจจะไปดูบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อเป็นการพักผ่อนหย่อนใจไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียหาย
สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงชี้โทษ คือการหมกหมุ่นกับสิ่งบันเทิงเริงรมย์เหล่านี้ ทำให้ใจหมกหมุ่น คิดวน
อยู่กับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งมีผลทำให้ใจเศร้าหมอง เมื่อใจเศร้าหมองก็เป็นเหตุปิดทางมรรคผลและไปสู่อบาย
ซึ่งลักษณะของผู้ที่เป็นอย่างนี้ จะเป็นดังนี้ คือ
1) รําที่ไหนไปที่นั่น
2) ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น
3) ประโคมที่ไหนไปที่นั่น
4) เสภาที่ไหนไปที่นั่น
5) บรรเลงที่ไหนไปที่นั่น
6) เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น
ใครก็ตามที่มีพฤติกรรมอย่างนี้ย่อมฟ้องว่า ใจของเขาหมกหมุ่นและฟุ้งซ่านเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้
ทำให้ใจของเขาเศร้าหมองอยู่เนืองๆ ธรรมะจะไม่ก้าวหน้าและเข้าถึงธรรมได้ยาก
3. สถานที่มีการเล่นการพนัน
การเล่นการพนันมีแต่โทษอย่างเดียว หาคุณไม่ได้ ผู้ที่ติดการพนันจะมีใจที่เศร้าหมอง
อย่างมากเพราะจิตของผู้เล่นการพนัน เป็นมิจฉาสมาธิอย่างแรง เนื่องจากผู้ที่เข้าวงการพนันทุกคน
ต่างหวังที่จะเข้าไปได้ ไม่มีใครหวังที่จะเข้าไปเสีย นั่นคือ มุ่งที่จะทำให้คนอื่นฉิบหายนั่นเอง แต่ในที่สุด
ความฉิบหายก็ย้อนมาสู่ตนเองอย่างหนีไม่พ้น ใครก็ตามที่เข้าไปมีส่วนร่วมย่อมทำให้จิตเศร้าหมอง
นอกจากไม่ได้สัมมาสมาธิแล้วตายไปยังไปตกนรกลึกคือไปนรกขุม 6
62 DOU สมาธิ 2 ห ลั ก ก า ร เ จ ริ ญ ส มา ธิ ภ า ว น า