ความจริงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและความทุกข์ MD 102 สมาธิ 2 หน้า 42
หน้าที่ 42 / 93

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้สื่อถึงความจริงที่ว่าสรรพสัตว์และสิ่งของทั้งหมดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และไม่สามารถยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดได้ เนื่องจากทุกสิ่งมีความไม่เที่ยงและปลายนิรันดร์ นายพระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้สอนให้เห็นว่าสิ่งที่เป็นสาระที่แท้จริงนั้นจะเป็นสิ่งที่เป็นนิจจัง สุขัง อัตตา ซึ่งหมายถึงแหล่งกำเนิดแห่งความสุข ที่สามารถนำไปสู่การปลดปล่อยจากกิเลสและความทุกข์ในชีวิต

หัวข้อประเด็น

-การเปลี่ยนแปลง
-สัจธรรม
-ทุกข์
-อนิจจัง
-อนัตตา
-ความสุขที่แท้จริง

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ไว้และที่เป็นสัจธรรม คือมันเป็นความจริงว่า สรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย ล้วนมีการเปลี่ยนแปลงเป็น ปกติ ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ มีเชื้อแห่งความทุกข์ เป็นบ่อเกิด เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความทุกข์ เพราะ ความไม่เที่ยงนั้นยังไม่ใช่เป็นตัวเป็นตนที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีสาระแก่นสาร เป็นเพียงแค่เครื่องอาศัย ชั่วคราวเท่านั้น จะเป็นคน เป็นสัตว์ เป็นสิ่งของ จะเป็นของกิน ของใช้อะไรก็แล้วแต่ มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต มีวิญญาณครอง หรือว่าไม่มีวิญญาณครอง ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดำรงอยู่ชั่วคราว เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บังคับบัญชาก็ไม่ได้ จะให้ได้ดังใจเราก็ไม่ได้ อย่าดูอื่นไกล ดูของที่อยู่ในตัวเรา ตั้งแต่เส้นผมบนศีรษะ จะให้ มันสวยมันงาม เหมือนเราอยู่ในวัยเจริญ ไม่ให้เปลี่ยนแปลง ไม่ให้มันเปลี่ยนสี ไม่ให้มันหลุดร่วง ให้มันสวยงาม คงอยู่ ดั้งเดิมเหมือนวัยเจริญ มันก็ไม่เชื่อฟังเรา มันก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และในที่สุด มันก็หลุดร่วงไป ฟันในปากก็ดี ในทำนองเดียวกัน ดวงตาก็ดี แต่เดิมนั้นก็ดูสดใส สดสวย ดูอะไรก็ชัดเจน ตอนหลัง ก็เปลี่ยนแปลงไปสู่ความไม่ชัดเจน เป็นฝ้าเป็นฟางดูแล้วไม่สวยงาม ผิวพรรณวรรณะแต่เดิมก็เต่งตึง ตอนหลังก็เหี่ยวย่น เราเห็นสัจธรรมตรงนี้ว่ามันตกอยู่ในไตรลักษณ์ อยู่ในสภาวะที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา จึงเป็นเพียงแค่เครื่องอาศัย จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะยึดมั่นถือมั่นว่านี่คือสาระ คือแก่นสาร คือของจริงของแท้ เมื่อเรารู้ว่ามันเป็นเพียงแค่อาศัยและมีคุณสมบัติดังกล่าวของอยู่ในตัวเราก็ดี เสื้อผ้า ปากกา แว่นตา ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไปสู่จุดสลายทั้งสิ้น เสื้อผ้าแต่เดิมก็มาจากต้นไม้ มาจากดิน มาจากต้นไม้ จากต้นไม้ก็มาสู่โรงงาน จากโรงงานก็มาสู่ร้านค้า จากร้านค้าก็มาสู่ตัวเรา จากตัวเราอยู่ไปนานๆ เข้า เกิดการเปลี่ยนแปลงชำรุดก็ลงไปสู่ที่พื้นบ้าน ไปเป็นผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้าบ้าง เช็ดโน่นเช็ดนี่อะไรต่างๆ แล้วในที่สุดก็ลงไปสู่ถังขยะ จากถังขยะก็แปรสภาพออกไปสู่ดิน แยกย้ายสลายกันไป ไปสู่จุดสลายทั้งสิ้น ปากกา แว่นตา อะไรต่างๆ ทรัพย์สินเงินทอง จะเป็นตึกรามบ้านช่อง รถราอะไรต่างๆ ต้องย้อน กลับไปสู่จุดสลายทั้งหมด มันมา มันอยู่ แล้วมันก็ไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วเสื่อมสลาย เมื่อเราเข้าใจอย่างนี้ ใจเราจะได้เบาสบาย ปลอดกังวล เสื้อเรา แต่ไม่ใช่เสื้อของเรา ร่างกายเราแต่ไม่ใช่ร่างกายของเรา บ้านเราแต่ก็ไม่ใช่บ้านของเรา เพราะฉะนั้นเราจะบังคับบัญชาอะไรให้ได้ดังใจปรารถนาของเรามัน เป็นไปไม่ได้ นึกคิดก็ทุกข์เปล่า พอเราคิดอย่างนี้เข้าใจ ก็จะได้ปลอดโปร่ง สบาย เมื่อเราเห็นว่าสรรพสิ่งทั้งหลายเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พระพุทธเจ้าสอนอย่างนี้เพื่อให้มองมุมกลับตรงกันข้ามว่า เมื่อเราอยู่ในสิ่งแวดล้อม อยู่กับสิ่งแวดล้อม ที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่เป็นสาระแก่นสาร เราก็ควรจะมุ่งแสวงหาสิ่งที่ เป็นสาระแก่นสาร ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นนิจจัง สุขัง อัตตา คงที่ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอมตะ เป็นแหล่งกำเนิด แห่งความสุขแล้วก็เป็นอิสระจากกิเลส เป็นชีวิตที่แท้จริงของเรา เป็นตัวจริงของเรา” 1 พระราชภาวนาวิสุทธิ์, พระธรรมเทศนา, 23 มกราคม 2543. บ ท ที่ 3 บ ท ที่ 3 ก า ร ป รั บ ใ จ DOU 33
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More