ข้อความต้นฉบับในหน้า
ถึงแม้ว่าการทำเฉยๆ จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่คนทั่วไปไม่คุ้นกับการไม่คิดอะไร ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีการ
คิดเรื่องต่างๆ เช่นธรรมชาติ บทของธรรมะ หรือเรื่องอื่นๆ เพื่อที่จะทำให้ใจสบาย
2. นึกถึงธรรมชาติ เช่น ภูเขา น้ำตก ทะเล ที่ทำให้อารมณ์รู้สึกสบายปลอดโปร่ง มีอารมณ์ที่
อยากจะนั่งทำภาวนา ดังตัวอย่าง
“ทำประหนึ่งว่าเราไม่เคยมีความคิดมาก่อน ไม่เคยเจอะเจอกับเหตุการณ์เหล่านั้นมาก่อน
คล้ายกับเราอยู่คนเดียวในโลก ทำความรู้สึกอย่างนี้ให้ได้ซักหนึ่งหรือสองนาที ให้มีความรู้สึกว่า
เราอยู่คนเดียวในโลกอย่างสบายๆ แล้วให้ลืมสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบข้างเรา อากาศจะอบอ้าวก็ช่างมัน
อย่าไปสนใจ นึกว่าเรานั่งอยู่บนยอดเขาสูงๆ ที่มีอากาศที่บริสุทธิ์ มีลมพัดเย็นสบาย แทนที่เราจะ
นึกว่าอากาศอบอ้าว เราก็คิดว่าเรานั่งอยู่ในที่สูงบนภูเขาสูงๆ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม อากาศเย็นสบาย
ที่นั่งที่มันไม่นุ่มนวล เราก็นึกว่านั่งอยู่บนพรมที่สบายๆ ที่ให้คิดอย่างนี้เพื่อให้จิตใจปลอดโปร่งสบาย
ไม่วิตก ไม่กังวลเรื่องราวอะไรทั้งสิ้น ใจเราจะได้แน่วแน่สู่เส้นทางสายกลางที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว”
3. แผ่เมตตา จะทำให้ใจของเราขยาย เบิกบาน และยังเหมาะสำหรับคนที่มักหงุดหงิด โกรธง่าย
และมักมีอารมณ์ค้างเกี่ยวกับเรื่องความไม่พอใจในคน สัตว์ สิ่งของ ที่อยู่รอบตัว แล้วนำมาคิดต่อในขณะ
ทำสมาธิ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 1 “ทำใจให้เป็นกุศล บริสุทธิ์ ผ่องใส มีความรัก มีความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์และ
สรรพสิ่งทั้งหลาย มีความปรารถนาดีต่อผู้ที่เป็นที่รักของเรา ตั้งแต่รักมาก รักปานกลาง รักน้อยๆ เฉยๆ
ไม่ถึงกับเกลียด กระทั่งถึงผู้ที่เราเคยขุ่นมัว เคยขัดเคือง เราจะต้องมีความรู้สึกอย่างนี้กับคนที่เคยทำให้เรา
ไม่สบายใจ ชอกช้ำใจ ว่าฉันจะลืมเธอซะ ลืมเรื่องที่เธอเคยทำกับฉันเอาไว้ แล้วยังไม่พอ และขอให้เธอ
มีความสุขด้วย ขอให้เธอประสบความสำเร็จในชีวิตทุกๆ ด้านเลย ชีวิตเธอมีความสุข ครอบครัวเธอมีความสุข
การงานเธอสำเร็จ สำเร็จทุกอย่างไปเลย แล้วยังไม่พอ จะต้องให้ความรักแก่ตัวของเราเอง โดยความรัก
ที่ยิ่งใหญ่ คือรักตัวเรา รักตัวเรารักอย่างไร อย่าทำร้ายตัวของเรา ด้วยการนำสิ่งที่ทำให้ใจเราร้อน เราเศร้า
เป็นทุกข์ ไม่สบายใจ จนกระทั่งท้อ หมดแรงที่จะสร้างความดีต่อไป จะต้องไม่มีอย่างนี้ด้วย”
ตัวอย่างที่ 2 “แผ่เมตตาจิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดีต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย แผ่เมตตา
จิตโดยนึกเบาๆ ให้สบายๆ ว่าขอให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่ไม่มีประมาณเหล่านั้น พ้นจากทุกข์โศกโรคภัย
ให้พบแต่ความสุขกาย สุขใจ มีความสุขทั้งนั่ง ทั้งนอน ทั้งยืน ทั้งเดิน ทั้งหลับ ทั้งตื่นตลอดวัน ตลอดคืน
ตลอดเวลาเลย ที่มีทุกข์ก็ให้พ้นทุกข์ ที่มีสุขแล้วก็ให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป นึกอย่างสบายๆ แผ่ไปให้หมด
นึกให้กระแสแห่งความเมตตาของเรา ความปรารถนาดีของเรา เป็นแสงสว่างออกจากร่างกาย ออกจากใจ
ของเรา ประหนึ่งว่าตัวเรา กายเรา ใจเรา เป็นศูนย์กลางของสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย แผ่ออกไป
- พระราชภาวนาวิสุทธิ์ พระธรรมเทศนา 7 มิถุนายน 2530.
* พระราชภาวนาวิสุทธิ์ พระธรรมเทศนา 9 พฤษภาคม 2540.
บ ท ที่ 3 ก า ร ป รั บ ใจ
DOU 31