ข้อความต้นฉบับในหน้า
ให้ทิ้งไปก่อน เพราะถ้าหากไปผูกพันกับภาพเหล่านั้นก็จะทำให้สมาธิไม่ก้าวหน้า
ส่วนที่แนะนำให้ดูเฉย ๆ ก็เพื่อให้ใจปล่อยวาง คือดูไปอย่างนั้นเอง เพื่อให้เป็นทางผ่านของใจไปถึงเป้าหมาย คล้าย ๆ กับ
เราขับรถไปเชียงใหม่ หรือจะไปที่ใดที่หนึ่ง แต่ระหว่างทางมันก็เห็นภาพตลอด เห็นคน เห็นต้นไม้ เห็นเสาไฟฟ้า เห็นรถสวนไปมา สมาธิ
ถ้าจอดรถแวะข้างทาง มันก็จะไม่ถึงที่หมาย หรือไปถึงช้า เพราะเป้าหมายเราไม่ได้อยู่ข้างทาง หรือรถที่สวนมาหรือแขงเรไป
หรือผู้คนอะไรต่าง ๆ เหล่านั้น ดังนั้นการดูเฉย ๆ คือ ดูโดยไม่ต้องคิดอะไร จะช่วยตรงนี้ได้
เมื่อภาพเกิดขึ้นจากใจที่เป็นสมาธิระดับหนึ่ง จนกระทั่งนำไปสู่ภาพสุดท้าย เมื่อใจไปถึงตำแหน่งที่วางใจ ที่หยุดใจที่ถูกต้อง
ภาพสุดท้ายจะต้องเป็นดวงใส ๆ
ภาพสุดท้ายจะเกิดเมื่อใจหยุดจากหยาบ จะมีอาการคล้าย ๆ
ตกจากที่สูงลงมา คล้าย ๆ เรานั่งเครื่องบินแล้วตกหลุมอากาศ
วูบลงมา เป็นต้น บางคนก็ลงอย่างรวดเร็ว บางคนก็ลงเหมือน
ขนมที่ลอยในอากาศ ซึ่งตามธรรมะเขาเรียกว่า อาการตกศูนย์
ตกสุขาากาศข้างใน
สิ่งที่ควรทำคือ ให้ดูเฉย ๆ จะทำให้ใจเราก้าวหน้า แล้วก็
ไปยังที่หมายได้โดยปลอดภัย มีชัยชนะ เราไม่จะต้องทางไปเรื่อย