ข้อความต้นฉบับในหน้า
44 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา
๑๒
ธรรมรักษาผู้ประพฤติธรรม
๑๒ มกราคม ๒๔๙๗
นโม.....
ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารี......
เริ่มต้นแห่งธรรมที่รักษาผู้ประพฤติธรรม ตามพระบาลีว่า
ธมฺโม ทเว รกฺขติ ฯ ธรรมนั้นแลย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
ธรรมที่บุคคลสั่งสมไว้ดีแล้วนำความสุขมาให้
ข้อนี้แหละเป็นอานิสงส์ในธรรมความประพฤติดี
ผู้ประพฤติธรรมดีเรียบร้อยไม่ไปสู่ทุคติ
“ธรรม” คือ ความดี มีเป็นระดับชั้น ถ้าไม่มีความชั่วเจือปนเลย เป็นวิราคธาตุวิราคธรรม
ธรรมแสดงตามปริยัติ
ธรรม แยกเป็น ๔ ประการ
๑. คุณธรรม ให้ผลตามกาล ดีฝ่ายเดียวให้ผลเป็นสุขฝ่ายเดียว เรียกคุณธรรม ถ้าฝ่ายชั่ว
ย่อมให้ผลเป็นทุกข์
ชีวิต
๒. เทศนาธรรม พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาไว้
ไพเราะในเบื้องต้น คือ ศีล ตลอดจนกระทั่งถึง ดวงศีล
ไพเราะในท่ามกลาง คือ สมาธิ ตลอดจนกระทั่งถึง ดวงสมาธิ
ไพเราะในเบื้องปลาย คือ ปัญญา ตลอดจนกระทั่งถึง ดวงปัญญา
๓. ปริยัติธรรม หลักสูตรนักธรรมตรี โท เอก เปรียญ ๓ - ๙
๔. นิสัตตนิชีวธรรม ยกรูปกับวิญญาณออก เหลือแต่เวทนา สัญญา สังขาร ไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่
ธรรมทางปฏิบัติ
ธรรม หมายถึง ดวงธรรมใสบริสุทธิ์ เป็นธรรมแท้ๆ ที่ทำให้เป็นมนุษย์ มนุษย์ละเอียด ถึง
กายอรหัตละเอียด มีขนาดต่างๆ เรียกว่า ธมฺโม สำเร็จมาจากเจตนาบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ
เมื่อเข้าถึงดวงธรรมของกายต่างๆ นี้ได้ ธาตุธรรมนั้นแหละ รักษาผู้ประพฤติธรรม ยิ่งสะอาด
ใส “ใจหยุดนิ่งหนักขึ้น ก็ยิ่งรักษาผู้นั้น ไม่ตกไปในที่ชั่ว”
เริ่มแรกธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์นั้น บริสุทธิ์สนิททั้งกาย วาจา ใจ คืออยู่ในศีลตลอด
ไม่มีผิดจากความประสงค์ของพระพุทธเจ้าพระอรหันต์เลย ตรงกับบาลีกล่าวไว้ว่า