ข้อความต้นฉบับในหน้า
96 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา
២៨
รัตนสูตร
(ว่าด้วยพุทธรัตนะ)
๒๖ เมษายน ๒๔๙๗
นโม.....
ยานีธ ภูตานิ สมาคตา.......
เมืองไพสาลี (เวสาลี) เกิดโรคร้าย ไม่มีผู้ใดบรรเทาได้ ชาวเมืองอาราธนาพระพุทธเจ้า ให้ลง
มา บำบัดภัย พระองค์เสด็จมาประทับริมแม่น้ำ เกิดฝนตกใหญ่ พาซากศพลอยน้ำไป ไพสาลีกลับมา
สะอาด อีกครั้ง พระองค์ทรงเห็นเหล่าภูตเป็นอันมาก จึงเทศน์ “พระรัตนสูตร” ให้พวกภูติมีไมตรีจิต
ต่อพวก มนุษย์ที่บวงสรวง และรัตนะอันใดในโลกหรือในสวรรค์หาเสมอด้วยตถาคตไม่
ภูต, ผี มีจริงแต่คนทั่วไปไม่รู้จัก
“ไม่โง่นะพวกเรานะ แต่มันก็ไม่ฉลาดเหมือนกัน” เพราะไม่รู้ว่าภูติปีศาจ
หน้าตาเป็นอย่างไร แต่พวกธรรมกายเขาเห็นกันทุกคน มีต่างๆ กันมากมายนัก
เช่น ภูตที่มารับเครื่องเซ่น ให้ทุกข์ให้คุณบ้าง มีเป็นจำนวนมาก
ในพระสูตรตอนต้นนี้มีเนื้อหาย่นย่อว่า
รัตนทรัพย์เป็นเครื่องปลื้มใจทั้งโลกนี้โลกหน้า แต่รัตนะเหล่านั้นหาเทียบพระตถาคตเจ้าไม่
ทรัพย์ เป็นเครื่องปลื้มใจ ทรัพย์ในโลกมี ๒ อย่าง คือ
ด.
สวิญญาณกทรัพย์ คือ ทรัพย์ที่มีวิญญาณ (ทรัพย์เป็น)
๒. อวิญญาณกทรัพย์ คือ ทรัพย์ที่ไม่มีวิญญาณ (ทรัพย์ตาย) เช่น
เครื่องใช้สอยต่างๆ ไร่นา บ้านเรือน แก้วแหวน เงินทอง เพชรนิลจินดา ทั้งที่ประดับวิมานในสวรรค์
“ถ้าคนมีปัญญา เขาก็หาทรัพย์เป็น เขาไม่หาทรัพย์ตายหรอก ทรัพย์เป็นๆ
นั่นแหละเป็นก้อนทรัพย์สำคัญ”
ขยายความ :
ทรัพย์ที่มีวิญญาณ คนมีปัญญาแสวงหา พัฒนาก้อนทรัพย์ คือ ตัวเราให้เป็นคนดี มิฉะนั้น
จะเป็นคนสมบัติเลว ถ้าพัฒนาได้ดีก็เป็นประโยชน์แก่คนอื่นด้วย
“ตนเอง” เป็นทรัพย์เป็นที่เยี่ยม ใครๆ ก็รับรอง เชื้อเชิญ ให้เงินสนับสนุน เป็นทรัพย์ ที่มี
วิญญาณแท้ๆ
ตัวอย่าง “วิชาดี” ก็มีคนเคารพ อยากให้ทำงานด้วย เป็นหญิงศึกษาวิชาหญิง เย็บปักถัก
ร้อย ทำกับข้าวเก่ง จนกษัตริย์ถามหา
“รูปสวย” มีคนขอเป็นมเหสีได้