สาระสำคัญพระธรรมเทศนา ๖๙ กัณฑ์หลวงปู่วัดปากน้ำ กัณฑ์ที่ ๑๑-๓๐ หน้า 45
หน้าที่ 45 / 67

สรุปเนื้อหา

ในพระธรรมเทศนานี้มีการกล่าวถึงสาระสำคัญในการบำเพ็ญทานการกุศล โดยเปรียบเทียบระหว่างไฟในทางโลกและธรรมที่มีอยู่ในพระพุทธศาสนา ธรรมเปรียบเสมือนไฟที่ให้แสงสว่างและความรู้ซึ่งควรแก่การปฏิบัติ สิ่งที่มาจากไฟเป็นสัญลักษณ์ของการบูชา และเปรียบเทียบความเป็นประมุขของต่างๆ ทั้งไฟ ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ที่มีบทบาทในโลก นอกจากนี้ ยังมีการอธิบายถึงดวงธรรมที่สามารถขยายและเจริญเติบโตได้ตามการปฏิบัติของผู้ปฏิบัติอย่างไร.

หัวข้อประเด็น

-การบำเพ็ญทาน
-ธรรมและไฟ
-เปรียบเทียบทางธรรม
-ความสำคัญของธรรม
-ดวงธรรมและดวงบาป

ข้อความต้นฉบับในหน้า

86 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา ๒๕ เกณิยานุโมทนาคาถา (พระสงฆ์เป็นประมุขแห่งบุญ) ๑๑ เมษายน ๒๔๙๗ นโม..... อคฺคตฺตต์ มุขา ปัญญา...... พระคาถานี้กล่าวปรารภเปรียบเทียบในทางโลกและทางธรรม ให้พวกเราเข้าใจในทางบำเพ็ญ ทานการกุศล อคคิตต์ ฯ ยัญทั้งหลาย มีไฟเป็นหัวหน้า ขยายความ : สาวิตติฉันท์ เป็นคัมภีร์ของฉันทศาสตร์ทั้งหลาย พระเจ้าแผ่นดิน เป็นประมุขของมนุษย์ทั้งหลาย สมุทรสาคร เป็นประมุขของแม่น้ำทั้งหลา ดวงจันทร์ เป็นประมุขของดวงดาวนักษัตทั้งหลาย ดวงอาทิตย์ เป็นประมุขของสิ่งที่มีความร้อนทั้งหลาย หมวดของความเป็นประธานในทางโลกและทางธรรม ที่มนุษย์มักไม่เข้าใจ มี 5 ประการ คือ ๑. ไฟ เป็นประธานในการบูชา เมื่อติดไฟขึ้น จึงถือว่าเริ่มการบูชา ยัญแปลว่า การบูชา หรือเซ่นสรวง มีมาตั้งแต่ก่อนพระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้น ธมฺโม ปทีโป วิย แปลว่า “ธรรมนั้นเหมือนไฟ” มีไฟปรากฏขึ้นฉันใด ธรรมก็ปรากฏ ฉันนั้น “เราเป็นพุทธศาสนิกชน ไฟที่ติดอยู่นี่เหมือนธรรมจริงๆ หนา ดับไปเสีย ไม่มี ไม่เห็น มีไฟจุดขึ้นปรากฏฉันใด ธรรมก็ปรากฏฉันนั้น เมื่อผู้ปฏิบัติเป็นขึ้น เห็น ทีเดียว ธรรมใสสว่างกระจ่างชัชวาลทีเดียว” ธรรมเป็นดวง ดวงเล็กใหญ่ตามส่วนของกายต่างๆ ถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นพระอรหัต ละเอียด ๒๐ วา กลมรอบตัว กว้างออกไปเหลือประมาณ เหมือนไฟในโลกที่มากน้อยตามเชื้อที่คนจุด หรือธรรมชาติในป่า “ดวงธรรมที่เป็นฝ่ายพระน่ะใสสะอาด สว่าง เป็นธรรมไปหมด ดวงบาป ดวง ธรรมโตเท่าไรดวงบาปก็โตเท่านั้น ดวงธรรมเล็กเท่าไรดวงบาปก็เล็กเท่านั้น” “เมื่อเราจุดไฟเวลาใด ก็นึกถึงธรรมเวลานั้น ว่าอ้อดวงไฟที่ปรากฏขึ้นนี้ ที่ เรา นับถือธรรม แสวงหาธรรม เรายังไม่เป็นธรรม ที่เรายังไม่เป็นยังไม่เห็นปรากฏ ก็ให้กำหนดรู้เหมือนไฟอย่างนี้แหละ เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปได้ ถ้าเกิดขึ้นสว่างดี ดับวูบไปเดี๋ยวนั้นก็ได้ เกิดขึ้นสว่างดีค่อยๆ ดับไปก็ได้ เกิดขึ้นแล้วไม่ดับติดจน กระทั่งสําเร็จก็ได้"
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More