ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 71
“อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ทั้ง ๒ ดวงนี้นี่แหละ เป็นธรรมถ่องแท้ในพุทธศาสนา
เมื่อผู้ปฏิบัติ ในศีล สมาธิ ปัญญา ต้องเข้าถึงดวงศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา จึงจะ
ได้ชื่อว่าเข้าถึงอธิศีล เข้าถึงอธิจิต เข้าถึงอธิปัญญา”
เมื่อเข้าถึงธรรมถ่องแท้ในพุทธศาสนาทั้งสามแล้ว เข้ากลางต่อไป จะถึง “ดวงวิมุตติ” แปล
ว่า หลุดพ้น ถือว่าหลุดจากศีล สมาธิ ปัญญา เข้ากลางถึง “ดวงวิมุตติญาณทัสสนะ” ต่อไปจะเห็น
“กายมนุษย์ละเอียด”
ทำเช่นนี้ผ่านดวงต่างๆ และเข้าถึงกายต่างๆ จนถึงกายธรรม ดวงศีล สมาธิ ปัญญาเท่าหน้า
ตักธรรมกาย เป็นกายนอกภพ (ถึงกายอรูปพรหมละเอียด ๘ กายแรก ยังเป็นกายในภพ) เข้าถึงอธิศีล
อธิจิต อธิปัญญาแท้ๆ เมื่อผ่านดวงวิมุตติ ดวงวิมุตติญาณทัสสนะจนเข้าถึงกายอรหัต หน้าตัก ๒๐ วา
พอถึงพระอรหัต เช่นนี้ หมดกิเลสแล้ว เป็นวิราคธาตุวิราคธรรม ดวงศีลที่อยู่ในกาย พระอรหัต
ถ้าเรียกว่า อธิศีลจะซ้ำไป เพราะท่านเป็นวิมุตติแล้ว จึงควรเป็นวิมุตติศีล วิมุตติจิต วิมุตติ ปัญญา
วิมุตติวิมุตติญาณทัสสนะ เข้าถึงกายอรหัตละเอียด
อื่นไม่มี
เดินแนวนี้ถึงอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา เป็นลำดับไป ถูกหลักเป็นพระอรหันต์ไปนิพพานได้ ทาง
เมื่อเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าในโลกแล้ว ท่านก็ส่องดูธรรมอุปนิสัยสัตว์ว่าเราปฏิบัติ มา
ถึงแค่นี้ เราจะเคารพอะไร ?
กายต่างๆ ในอบายภูมิ กามภพ รูปภพ อรูปภพ ต่ำกว่าทั้งนั้น ยังไม่ได้มรรคผล ท่านจึงสอด
ธรรมกายพระอรหัตถอยออกไปนิพพาน มีเท่าไร เข้ากลางเข้าไปถามพระพุทธเจ้าองค์แรกๆ ว่านับถือ
ใคร จนวางเป็นหลักไว้ว่า
เย จ อตีตา สมพุทธา ฯ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่าใดมีอยู่แล้วด้วย มีอยู่ในบัดนี้ด้วย ทั้งจะมีต่อไปในภายภาค
เบื้องหน้าด้วย เคารพสัทธรรมอย่างเดียว ผู้รักตน ผู้สงสารตน ยินดีต่อตน จำนงความเป็นใหญ่ควร
เคารพสัทธรรม
เคารพสัทธรรม เคารพอย่างไร ?
เริ่มต้น ก็ต้องหยุดอยู่ศูนย์กลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ พอหยุดถูกส่วนเข้าก็เห็น ดวง
ศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิมุตติ ดวงวิมุตติญาณทัสสนะ เข้าถึง ๑๘ กาย
“หยุดนั่นแหละสำคัญ หยุดนั่นแหละเป็นตัวสำเร็จ หยุดอันเดียวเท่านั้นแหละ”
“เมื่อรู้จักใจกลางพระศาสนาดังนี้ละก็ ปล้ำใจให้หยุดเท่านั้น ถูกทางไปของ
พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ ให้ถูกต้องร่องรอยความประสงค์ของพระพุทธศาสนา
แต่ว่าต้องอาศัย ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องอาศัยอธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ต้องอาศัย
วิมุตติศีล วิมุตติจิต วิมุตติปัญญา ถ้าไม่อาศัยทางนี้เดินละก็ไปไม่ได้”