สาระสำคัญพระธรรมเทศนา ๖๙ กัณฑ์หลวงปู่วัดปากน้ำ กัณฑ์ที่ ๑๑-๓๐ หน้า 43
หน้าที่ 43 / 67

สรุปเนื้อหา

บทความนี้ศึกษาเกี่ยวกับนิพพานและการบรรลุธรรมของพระพุทธเจ้า โดยกล่าวถึงความสำคัญของธรรมกายในการเข้าถึงความสงบและความรู้ที่ลึกซึ้ง นิพพานถือเป็นเป้าหมายหลักของบัณฑิตผู้ฝึกฝนปฏิบัติ พร้อมทั้งตีแผ่กิเลสและความไม่เที่ยงของขันธ์ที่ทำให้เกิดทุกข์ผ่านการปฏิบัติธรรมตามแนวทางวิปัสสนา ของพระพุทธศาสนา เนื้อหานี้เหมาะสำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมะเพื่อการปล่อยวางและการเข้าถึงนิพพานอย่างแท้จริง.

หัวข้อประเด็น

-สาระสำคัญพระธรรมเทศนา
-การเข้าถึงนิพพาน
-การตัดกิเลส
-การฝึกฝนปฏิบัติ
-ความไม่เที่ยงของขันธ์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

84 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา วิเวเก ฯ ยินดีได้ด้วยยากในนิพพานอันสงัดใด “ถ้าว่าไม่มีธรรมกายแล้ว ไปยินดีไม่ได้ ถ้าไม่ถึง ไม่รู้รสชาติของนิพพานที่ เดียว ถ้ามีธรรมกายแล้ว ยินดีนิพพานได้ นิพพานเป็นที่สงัด เป็นที่สงบ เป็นที่เงียบ เป็นที่หยุดทุกสิ่ง ถึงนิพพานแล้ว สิ่งที่ดีจริงอยู่ที่นิพพานทั้งนั้น” ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย ฯ ละกามทั้งหลายเสียได้แล้ว เป็นผู้ไม่มีกังวลแล้ว ปรารถนายินดีจำเพาะ ในพระนิพพานนั้น “พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์มุ่งนิพพานทั้งนั้น เมื่อเป็นพระอรหัตนั้น มี จำนวนเท่าไรองค์ ก็มุ่งนิพพานทั้งนั้น ตั้งแต่อนาคาก็มุ่งนิพพาน อยากจะอยู่ใน นิพพาน เป็นที่เบิกบานสำราญใจ กว้างขวาง ทำให้อารมณ์กว้างขวางทำให้ เยือกเย็น สนิท ปลอดโปร่งในใจ ทำให้สบายมากนัก นิพพาน” ปริโยทเปยย ฯ บัณฑิตผู้ดำเนินด้วยคติของปัญญาเรียกว่า คนฉลาด ชำระตนให้ผ่องแผ้ว สะอาด จากธรรม เครื่องเศร้าหมอง เหลือแต่ธรรมกายใสสะอาดเป็นชั้นๆ ไป ตั้งแต่โคตรภู ถึงอรหัต บัณฑิตนั้นย่อมไม่ถือมั่น ปล่อยเสียหมดได้ พระสูตรบทสุดท้าย มุ่งเน้นถึงตัดกิเลสเป็นพระอรหันต์ จึงเป็นธรรมทางวิปัสสนา ขีณาสวา ฯ บัณฑิตนั้นย่อมเป็นผู้ไม่มีอาสวะ ทั้งกามาสวะ ทิฏฐาสวะ อวิชชาสวะ ย่อม เป็นผู้โพลง รุ่งเรือง สว่าง ดับสนิทในโลกด้วยประการดังนี้ ธรรมที่แสดงมานี้ เป็นทางวิปัสสนาโดยกล่าวมาตามปริยัติ แต่โดยทางปฏิบัติลึกซึ้งมาก ต้อง อาศัยธรรมกายเท่านั้น เมื่อธรรมกายปรากฏ ก็เห็นธรรมตามที่กล่าวมาแล้วว่าเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในขันธ์ ๕ ทั้ง ๘ กาย (ภูมิสมถะ) รวมทั้งสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรก ว่าขันธ์ นั้นเกิดจากธาตุจาก ธรรมเป็นตัวยืน ขันธ์มีกี่ชาติก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง และไม่ใช่ตัว และ (ดวง) ธรรม ที่ทำให้เป็นขันธ์ ทุกกายก็ไม่ใช่ ตัวจึงปล่อยละเป็นชั้นๆ ตั้งแต่กายหยาบเข้าหากายธรรมถึงขั้นวิปัสสนา ในขั้น 4 กาย เป็นขั้นสมถะ จึงยังเข้าถึงวิปัสสนาไม่ได้ ภูมิสมถะ มี ๔๐ กสิณ ๑๐ อสุภะ ๑๐ อนุสติ ๑๐ อาหาเรปฏิกูลสัญญา ๑ (กำหนดอาหาร เป็น ปฏิกูล) จตุธาตุววัตถาน ๑ (กำหนดธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ) พรหมวิหาร ๔ อรูปฌาน ๔ ภูมิวิปัสสนา ตาธรรมกายเห็นความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัว ประกอบด้วย ขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ ธาตุ ๑๘ อินทรีย์ ๒๒ อริยสัจ ๔ ปฏิจจสมุปบาทธรรม ๑๒ ตาธรรมกายมองเห็นอริยสัจ ๔ ว่า ทุกข์ คือ การเกิด (ชาติปิ ทุกขา คือ ความเกิดเป็นทุกข์) รวมถึงแก่ เจ็บ ตาย เหตุเกิดทุกข์ คือ กามตัณหา (ความอยากได้) ภวตัณหา (ความอยากให้มีให้เป็น) วิภวตัณหา (ไม่อยากให้แปรไป) “เหมือนเราเป็นหญิงเป็นชาย ไม่มีลูกอยากได้ลูก นั่นเป็นกามตัณหาแล้ว ได้ลูก สมเจตนาเป็นภวตัณหาขึ้นแล้ว ไม่อยากให้ลูกนั้นแปรไปเป็นอย่างอื่น นั่น เป็นวิภวตัณหาอีกแล้ว”
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More