ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 47
Om
ธรรมนิยามสูตร
(ธาตุธรรม)
๓๑ มกราคม ๒๔๙๗
นโม.....
เอวมฺเม สุติ.....
เป็นธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงเทศนายกย่องธาตุธรรมว่า เป็นของเกิดขึ้นก่อนแม้พระพุทธเจ้า
จะเกิดขึ้น หรือไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม
พระสูตรนี้ พระพุทธเจ้าตรัสต่อภิกษุทั้งหลายที่วิหารเชตวัน ใจความโดยย่อว่า
อุปปาทา วา ฯ “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเกิดขึ้นของพระตถาคตเจ้าก็ดี ความไม่บังเกิดขึ้น
ของพระตถาคตเจ้าก็ดี ธาตุนั้นตั้งอยู่แล้ว เพราะความที่แห่งธาตุนั้นเป็นที่
ตั้งมั่นแห่งธรรม เพราะความที่แห่งธาตุนั้นเป็นเบาะของธรรมว่าสังขาร
ทั้งปวงไม่เที่ยง...สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ...ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตัว”
ธรรมนี้ลึกซึ้งนัก เราอาศัยกายมนุษย์ก็จริง แต่ว่าไม่รู้จักธาตุธรรมของมนุษย์ พระพุทธเจ้า
และพระอรหันต์ จะเข้าใจพระสูตรนี้ได้ก็ต้องเข้าใจเรื่องธาตุธรรม และพระตถาคตเจ้าว่าอยู่ที่ไหน?
พระตถาคตเจ้า คือ ธรรมกาย ตั้งแต่โคตรภูถึงอรหัตละเอียด “ธรรมกายนี่ตัวพระตถาคตเจ้า
ทั้งนั้น” ธรรมกายจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิด ธาตุนั้นเขาตั้งอยู่แล้ว
ธาตุ
นั้นเป็นเบาะของธรรม คือ เป็นที่ตั้งของธรรม
“ธาตุ” “ธรรม” มีรูปร่างอย่างไร ?
“ธาตุนั้นตัวจริงน่ะกลมๆ ธรรมตัวจริงก็กลมๆ เป็นดวงกลมๆ” ดวงกลม เล็กใหญ่ตามส่วน
ตั้งแต่เล็กสุดจนกล้องส่องไม่เห็น และใหญ่ขึ้น ไปเต็มธาตุเต็มธรรม ธาตุธรรมนี้แยกกันไม่ได้อาศัยกัน
เหมือนกายและใจ ธาตุเป็นเบาะของธรรม ธรรมก็เป็นเบาะของธาตุได้
“เบาะ” เป็นภาษาพูด เปรียบอายตนะเป็นเบาะ คือที่ตั้ง ที่อาศัย เช่น ครรภ์มารดาเป็นเบาะ
อายตนะ (เปรียบเป็นเบาะ) มี ๒ อย่าง
๑. โลกายตนะ เบาะของโลก เป็นอายตนะของชั้นกาม เช่น ครรภ์มารดา (มนุษย์อยู่ในอายตนะ
นี้ ไม่มีเกิดไม่ได้) ชั้นทิพย์ทั้ง 5 ชั้นรูปพรหม อรูปพรหม ล้วนมีเบาะตามชั้นของตน
๒. ธรรมายตนะ นิพพานเป็นอายตนะอยู่ (เบาะนิพพาน)
ธาตุธรรมแบ่งออกเป็น ๒ คือ
๑. สราคธาตุสราคธรรม