ข้อความต้นฉบับในหน้า
64 สาระสำคัญพระธรรมเทศนา
“เมื่อสละอารมณ์ได้ ในทางปฏิบัติไม่เกี่ยวด้วยอารมณ์เลย ใจหลุดจาก
อารมณ์เหมือนอะไร เหมือนไข่แดงกับไข่ขาวอยู่ด้วยกันจริงๆ แต่ว่าไม่เกี่ยวกัน
ไข่แดงมีเยื่อหุ้มอยู่นิดหนึ่งบางๆ ไม่เกี่ยวกับไข่ขาวด้วย ไข่ขาวหุ้มอยู่ข้างนอกไม่
ติดกัน รสชาติของไข่แดงก็รสหนึ่ง รสชาติของไข่ขาวก็รสหนึ่ง ไม่เข้ากัน อยู่
คนละทาง เห็นปรากฏทีเดียว เห็นที่ไหน อยู่ที่ไหน จึงเป็นทางปฏิบัติ เห็นปรากฏชัด
อยู่ในกลางดวงธรรม ที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ ใสบริสุทธิ์เท่าฟองไข่แดงของไก่”
พอเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียด ตาของกายมนุษย์ละเอียด ก็เห็นรู้ว่าดวงจิตของมนุษย์นั้น
เวลานี้ไม่เกี่ยวด้วยอารมณ์ทั้ง 5 นิ่งแน่นอนอยู่กับดวงจิตไม่คลาดเคลื่อน ดวงจิตนั้นก็ซ้อนอยู่กับดวงจำ
ดวงเห็น ดวงวิญญาณก็ซ้อนในดวงจิต เป็นจุดเดียวกัน เรียกว่า ถึงซึ่งความเป็นหนึ่ง (เอกคคตา) ไม่
มีเขยื้อน เหมือนน้ำที่ใส่ไว้ในแก้วตั้งไว้มั่น ไม่มีลมพัดมา เป็นสมาธิเบื้องต่ำโดยปฏิบัติ
สมาธิท่านวางหลักมาก ไม่ใช่แต่ปราศจากอารมณ์ถึงความเป็นหนึ่งเท่านี้ มีถึง ๔๐ ยกเป็น
ปริยายเบื้องสูง ๘ เหลืออีก ๓๒ เป็นสมาธิฝ่ายนอกพระศาสนา หรือสมาธิข้างนอก คือเห็นข้างนอก
แล้วน้อมเข้าไปข้างในได้
“ถ้าสมาธิตรงข้างในดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ เช่นนี้ละก็ถูกเป้า
หมายใจดำพุทธศาสนา”
สมาธินอกพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าทรงรับรองอนุโลม มี กสิณ ๑๐ อสุภะ ๑๐
อาหาเรปฏิกูลสัญญา
เดียว”
ด
จตุธาตุววัตถาน ๑ รวมเป็น ๓๒ เป็นสมาธิโดยปริยายเบื้องต่ำ
“แต่ว่าสมาธิโดยทางปริยัติไม่เห็น...ถ้าสมาธิในทางปฏิบัติ ผู้ได้ ผู้ถึงเห็นที
สมาธิในทางปฏิบัติโดยปริยายเบื้องสูง :
อนุสติ ๑๐
เมื่อเข้าถึงฌานที่ ๑ ก็เป็นตัวปฏิเวธแล้ว เข้าถึงฌานที่ ๒ ก็เป็น ปฏิเวธอีก ปรากฏชัดด้วยตา
ของตัว เข้าถึงกายไหน ก็เป็นปฏิเวธกายนั้น
ใจหยุดนิ่งกลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ เกิดเป็นฌานขึ้นกลางดวงจิตที่หยุดนั้นโดย
นิ่งหนักเข้าๆ พอถูกส่วนเข้า ก็เข้ากลางของหยุดนั้น พอถูกส่วน เป็นดวงผุดขึ้นมา ดวงใหญ่รอบตัว
วัดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒ วา (๘ ศอก) หนาคืบหนึ่ง กลมรอบตัว มีกายมนุษย์ละเอียดขึ้นนั่งอยู่กลาง
ดวงนั้น
ดวงจิตมนุษย์ละเอียด เห็นดวงจิตตัวเอง ก็นิ่งอยู่ในกลางดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์
ละเอียดนั้น พ้นจากกายมนุษย์หยาบแล้ว
กายมนุษย์ละเอียด ก็นั่งอยู่กลางดวงฌาน วัดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๒ วา (๘ ศอก) กลมรอบตัว
เป็นวงเวียนหนาคืบหนึ่ง กายมนุษย์ละเอียด เข้าฌานแล้วจะไปไหนก็คล่องแคล่ว
เมื่อเข้าฌานเช่นนั้นแล้วก็คล่องแคล่ว เกิดวิตกว่านี่อะไร ไม่เคยเห็น ตรึกตรอง วิจาร เกิด
วิตก คือ ตรวจตรา ดูสีสันวรรณะ รอบเนื้อรอบตัวซ้ายขวา หน้าหลัง เกิดปีติชอบใจ เต็มส่วนปีติ สุข
กาย สบายใจ แล้วก็นิ่งเฉย เกิดแต่วิเวก ใจวิเวกนิ่งอยู่กลางดวง เต็มส่วนของฌาน