ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) 83
เมื่อว่าไม่ใช่ตัว แล้วอะไรเป็นตัว ?
เรื่องนี้แสดงไว้เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงโปรดภัททิยะราชกุมาร ๓๐ ทรงแสดงถึงตัวนี้ว่า กาย
มนุษย์เป็นตัวโดยสมมุติ ถึงกายอรูปพรหมละเอียด ทั้ง 4 กาย เข้าถึงกายอรหัตละเอียด จึงเป็นพระ
อรหันต์ เป็นตัววิมุตติแท้ๆ ออกจากสราคธาตุสราคธรรม เข้าถึงวิราคธาตุวิราคธรรม
“มีวิปัสสนาก็มีธรรมกาย เห็นด้วยตาธรรมกายนั่นแหละเรียกว่า วิปัสสนา
แปลว่า เห็นแจ้ง เห็นวิเศษ เห็นต่างๆ เห็นไม่มีที่สุด เห็นด้วยตากายมนุษย์ กาย
มนุษย์ละเอียด กายทิพย์ กายทิพย์ละเอียด กายรูปพรหม กายรูปพรหมละเอียด
กายอรูปพรหม กายอรูปพรหมละเอียด เห็นเท่าไรก็เห็นไป เรียกว่าอยู่ในหน้าที่
สมถะทั้งนั้น ไม่ใช่วิปัสสนา ถ้าวิปัสสนาละก็ต้องเห็นด้วยตาธรรมกายนั่นแหละ
เป็นตัววิปัสสนาจริงๆ ละ”
ในตอนท้ายกล่าวว่า น้อยคนนักที่เข้าถึงฝั่งนิพพาน
ขยายความ
หมู่สัตว์ล้วนเลาะอยู่ในสักกายทิฏฐิ ไต่อยู่แต่กายมนุษย์นี่เอง ใจไม่พ้นกายมนุษย์ไป แม้พ้น กาย
มนุษย์ก็ไปไต่อยู่กับกายมนุษย์ละเอียด จนถึงอรูปพรหมละเอียด ออกจากภพไม่ได้ ได้ชื่อว่าเลาะอยู่
แต่ชายฝั่งนี้ ไม่ไปถึงพระนิพพาน
นิพพาน
“ในวัดปากน้ำนี้มีจำนวนภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ๑๕๐ กว่า แต่
หมดประเทศไทย นอกจากวิชชานี้แล้ว ไม่มีใครไปนิพพานได้เลย ไปนิพพานได้ก็
แต่ธรรมกายเท่านั้น”
“พวกมีธรรมกายนั้นไปถึงนิพพาน ผู้ที่ไปถึงนิพพานแล้วมามองดูผู้ที่ไม่ไป
นั่น ผู้ที่ไปนิพพานได้หาว่าผู้ที่ไม่ไปนั่นตาบอด มองไม่เห็นนิพพาน งุ่มง่ามเงอะ
งะอยู่ในกายเหล่านี้เอง งุ่มง่ามอยู่ในนี้เอง ตาบอดแล้วไม่รู้ว่าตัวตาบอดด้วยนะ
ใช่ว่าจะรู้ตัวเมื่อไรล่ะ? ไม่รู้เสียด้วย ถ้ารู้ตัวว่าตัวตาบอดก็รีบทำให้ตาดี ให้เข้าถึง
ธรรมกาย ให้ได้ เข้าถึงธรรมกาย ก็เป็นตาดีกัน ไม่เข้าถึงไปนิพพานไม่ได้”
เมื่อรู้จักหลัก จึงพึงปฏิบัติตามธรรมในธรรมที่ตัวเป็นพระตถาคตเจ้ากล่าวชอบแล้ว เพื่อให้ถึง
ธรรมอะไรที่พระตถาคตเจ้ากล่าวชอบ ?
ธรรมที่ทำให้เป็นกายต่างๆ จนถึงกายพระอรหันต์ เป็นสวากขาตธรรม ตัดกิเลสเป็น สมุท
เฉทปหาน เมื่อไปทางนี้ ก้าวล่วงเสียซึ่ง วัฏฏะ อันได้แก่ กรรมวัฏฏ กิเลสวัฏฏ วิปากวัฏฏ ให้ละธรรมดำ
ยังธรรมขาวให้เจริญ ด้วยการเข้าถึงดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์ใสเป็นแก้วเข้าไปเรื่อยๆ จนเข้าถึง
ธรรมกายตลอดไป
ธรรมขาวเป็นอย่างไร ?
กณฑ์ ธมฺม ฯ อาศัยซึ่งนิพพาน ไกลจากอาลัย ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
ด้วยการมีธรรมกาย และไปนิพพาน