ข้อความต้นฉบับในหน้า
ความนํา
บทที่ 1
องค์รวมแห่งปรโลก
สรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ ล้วนมีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปในที่สุด
เป็นกฎเกณฑ์ทางธรรมชาติที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบและนำมาแสดงให้กับมนุษย์ทั้งหลายได้รับทราบ
หากเรานำมาขบคิดพิจารณา เราจะเห็นจริงตามพระดำรัสของพระพุทธองค์ และยังพบว่าไม่มีใคร หรือ
สิ่งใดที่จะรอดพ้นจากกฎธรรมชาติเหล่านี้ไปได้เลย
มนุษย์ได้ชื่อว่า เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกใบนี้ มนุษย์แต่ละยุคแต่ละสมัย
มีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านอายุขัย ขนาดรูปร่าง อาหารการกิน และความเป็นอยู่ ซึ่งขึ้นอยู่กับความ
บริสุทธิ์ของธาตุที่อยู่ในตัวมนุษย์ในยุคนั้น อย่างเช่น มนุษย์ยุคของเรานี้ สามารถสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ บน
โลกนี้ ให้เจริญงอกงามไปด้วยวัตถุที่ทันสมัยที่จะอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตให้กับมนุษย์ได้อย่าง
น่าอัศจรรย์ แต่อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ยุคนี้ กลับเหลือเพียง 75 ปีเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์ในยุคแรก
ที่มีอายุยืนเป็นพันปี หมื่นปี นี่คือความแตกต่างของมนุษย์แต่ละยุค
มนุษย์ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประเสริฐที่สุด และมีลักษณะที่แตกต่างกันดังกล่าวตามยุค
ตามสมัย แต่ถึงอย่างไร มนุษย์ยังไม่อาจจะพ้นจากกฎเกณฑ์ธรรมชาติที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบ
ดังกล่าวข้างต้นได้ ซึ่งพระองค์ทรงแสดงสิ่งที่เป็นสามัญลักษณะสำหรับมนุษย์ไว้ว่า คนเรามีความแก่ ความ
เจ็บ และความตายเป็นธรรมดา เราจะล่วงพ้นความแก่ ความเจ็บ และความตายไปไม่ได้ ธรรมะข้อนี้
สะท้อนให้เห็นว่า มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาในโลกใบนี้ล้วนจะต้องตายหมด ไม่มีใครเลยที่จะหลุดรอดพ้นจาก
ความตายไปได้ ไม่มีใครอยู่เป็นอมตะค้ำฟ้าได้ตลอดไป
คราวนี้ก็มีคำถามยอดนิยม ที่มีผู้คนสงสัยกันมากในทุกยุคทุกสมัยว่า คนเราเมื่อตายแล้วไปไหน
ซึ่งมีคำตอบที่หลากหลาย บางคนมีความเชื่อว่าตายแล้วสูญ บางคนเชื่อว่าตายแล้วไม่สูญ แต่โดยทั่วไปแล้ว
ไม่ทราบว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งความเชื่อเหล่านี้มีผลต่อชีวิตหลังความตายของบุคคลนั้นๆ คือ ถ้าเชื่อว่า
ตายแล้วสูญ แล้วไม่ประกอบความดี เมื่อละโลกแล้วปรโลกที่เขาจะไปนั้น ก็จะเศร้าหมอง ทุกข์ทรมาน
ยิ่งนัก หากมีความเชื่อว่าตายแล้วไม่สูญ ก็จะประกอบความดีอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสเดินทางไปสู่ปรโลกที่
มีแต่ความสุขได้ เมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว
ดังนั้น ถึงอย่างไรมนุษย์ทุกคนต้องตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่นักศึกษาจะ
ต้องศึกษาวิชาปรโลกวิทยา เพื่อให้ทราบความจริงของชีวิตหลังความตายว่า มีสถานที่ใดบ้าง เป็นสถานที่
ที่รองรับชีวิตหลังความตาย มีสภาพชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร และเราจะเตรียมความพร้อมอย่างไรที่จะ
เดินทางไปสู่ปรโลก เมื่อได้ศึกษาแล้ว จะทำให้เราเข้าใจความเป็นจริงของชีวิตมากขึ้น และจะได้ตั้งใจ
ประกอบเหตุที่จะนำไปสู่ปรโลกที่ดีมากขึ้น และหากสั่งสมความดีไว้มาก แต่ยังไม่หมดกิเลส เรามีโอกาสเลือก
4 DOU ป ร โ ล ก วิ ท ย า