เวตรณีนรก: ความทรมานในนรกแม่น้ำเค็ม GL 102 ปรโลกวิทยา หน้า 56
หน้าที่ 56 / 180

สรุปเนื้อหา

เวตรณีนรกคือสถานที่ที่สัตว์นรกต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานจากน้ำเค็มและหนามหวาย มีบรรยากาศหลอกล่อให้เข้าใจว่าน้ำสะอาด แต่กลับพบความเจ็บปวดจากอุปกรณ์นรกที่ทำให้ร่างกายแตกสลาย พวกเขาต้องพบกับความทุกขเวทนาทั้งการโดนแทงและน้ำร้อนจนกว่าจะหมดกรรม ก่อนที่จะต้องไปตัดสินคดีในยมโลกต่อไป เหตุการณ์เหล่านี้ได้รับความสนใจจากคนไทยและถูกนำเสนอในรูปแบบละครทีวี เช่น พิภพมัจจุราช

หัวข้อประเด็น

-เวตรณีนรก
-ทุกขเวทนาในนรก
-กรรมและการลงทัณฑ์
-ยมโลกและการทัณฑ์สัตว์นรก
-วรรณกรรมไทยเกี่ยวกับนรก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

โฉบเฉี่ยวยื้อแย่งจิกทิ้งเนื้อสัตว์นรก ฉีกกินเป็นอาหาร กรรมยังไม่สิ้น ต้องเสวยทุกขเวทนาไปอย่างนี้ตลอด เวลา ขุมที่ 4 เวตรณีนรก เวตรณีนรก คือ นรกแม่น้ำเค็มมีหนามหวาย ครั้นเมื่อสัตว์นรกพ้นจากกำแพงของอธิปัตตนรก สัตว์นรกที่ยังมีอกุศลกรรมเหลืออยู่ ถึงแม้จะหลุดพ้นจากนรกป่าไม้ดาบแล้ว ก็ยังไม่หมดสิ้นการทรมาน จะ ต้องมาสู่นรกขุมนี้อีก ซึ่งเป็นนรกขุมบริวารอันดับที่ 4 อยู่ติดกับอธิปัตตนรก ลักษณะของเวตรณีนรก จะมีน้ำเค็ม แสบ ตั้งอยู่ชั่วกัป มีเครือหวายหนามเหล็กล้อมอยู่โดย รอบเป็นขอบขัณฑ์ มีดอกปทุม (ดอกบัว) ผุดบานล่อใจให้ชวนชม เมื่อสัตว์นรกเห็นแล้วก็เข้าใจว่าเป็น แม่น้ำใสสะอาดเย็นสนิทน่าอาบ น่าดื่ม ก็พากันดีอกดีใจ หวังจะอาบดื่มกินให้สบาย จึงวิ่งด้วยความเร็ว กระโจน ลงไปในแม่น้ำ ทันใดนั้นเองเครือหวายเหล็ก ซึ่งคมเหมือนหอกเหมือนดาบ ก็บาดร่างกายทำให้เป็นแผลใน น้ำเค็ม ทั้งเจ็บทั้งแสบ แล้วก็เกิดเป็นเปลวไฟลุกไหม้เผาร่าง เผาทั้งๆ ที่อยู่ในแม่น้ำ จนไหม้เกรียมเหมือน กับต้นไม้ที่ถูกไฟไหม้ บางตนร่างห้อยอยู่บนเครือหนาม ในไม่ช้าร่างนั้นก็ต้องตกลงไปโดนดอกบัวเหล็กที่มี กลีบแหลมคมเป็นกรด ซึ่งตั้งอยู่กลางน้ำเค็มมีเปลวไฟติดอยู่ตลอดเวลา ในบัวเหล็กแดงก็บาดร่างกายขาด วิ่น สัตว์นรกคิดว่า ถ้าดำลงไปในแม่น้ำที่ลึกกว่านี้ คงจะหลุดพ้นจากการทรมานได้ จึงกลั้นใจดำน้ำลงไป แต่ แล้วกลับถูกคมดาบซึ่งหงายอยู่ภายใต้น้ำนั้นบาดเอา เจ็บแสนสาหัส เท่านี้ยังไม่พอ ยังถูกนายนิรยบาลใช้ หอก หลาว แหลน จ้วงแทงเอา เหมือนกับมนุษย์ใช้ฉมวกแทงปลาในน้ำฉันใดฉันนั้น จากนั้นนายนิรยบาลเอาเบ็ดนรกเกี่ยวลากสัตว์นรกขึ้นมา บังคับให้นอนหงายเหนือแผ่นเหล็ก แล้ว เอาหลาวเหล็กงัดปาก เอาก้อนเหล็กซึ่งกำลังลุกแดงโชนยัดใส่เข้าไปในปาก พอถึงปาก ปากก็ไหม้ ตกมา ถึงคอ คอก็ไหม้ พอตกถึงท้อง ก็ไหม้ไส้ใหญ่ไส้น้อยให้ทะลักออกมา สัตว์นรกก็ร้องไห้ครวญคราง ครั้นนาย นิรยบาลเห็นสัตว์นรกร้องครวญครางเช่นนั้น ก็ทำเหมือนกับว่าจะมีใจกรุณา จึงร้องถามไปว่า “ท่านอยาก จะกินอะไร” สัตว์นรกตอบว่า “น้ำ ข้าพเจ้ากระหายน้ำเหลือเกิน เพราะก้อนเหล็กแดงนี่ร้อนนัก” ทันใดนั้น เอง นายนิรยบาล จึงเอาน้ำทองแดงที่กำลังเดือดพล่านมากรอกลงไปในปากของสัตว์นรกผู้กระหายน้ำ พอ น้ำถึงปาก ปากก็แดงพังทลาย พอถึงคอถึงท้อง คอและท้องก็พังพินาศ พอตกถึงลำไส้ ลำไส้ใหญ่น้อยก็ ขาดกระจุยกระจายเรียงรายออกมา ต้องเสวยทุกขเวทนาอันแสนจะเจ็บปวดอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะ สิ้นกรรมที่ทำมา เมื่อสัตว์นรกได้ถูกลงทัณฑ์ทรมานในอุสสทนรกเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก จนกระทั่งกรรม เบาบางแล้ว ก็ต้องไปตัดสินคดีในยมโลกต่อไป 2.1.3 ยมโลกนรก เรื่องยมโลกนี้ เป็นที่รู้จักกันมากในหมู่คนไทย เพราะมีปรากฏให้เห็นตามผนังโบสถ์ของวัดหลายแห่ง ซึ่งจะมีภาพวาดการทัณฑ์ทรมานสัตว์นรกโดยเหล่าเจ้าหน้าที่ในยมโลก และที่สร้างความสนใจให้กับคน จำนวนมาก คือ การนำเรื่องราวของยมโลกมาทำเป็นละครทีวี เรื่องพิภพมัจจุราช โครงเรื่องจะเป็นลักษณะ 46 DOU ป ร โ ล ก วิ ท ย า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More