ข้อความต้นฉบับในหน้า
สามารถ ละสังโยชน์เบื้องต่ำได้ 3 ชนิด คือ
สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส แต่ถ้าเป็นพระสกิทาคามีจะทำสังโยชน์เบื้องต่ำอีก 2 ชนิด
ที่เหลือ ได้แก่ กามราคะ คือ ความพอใจในกาม และปฏิฆะ คือ ความกระทบกระทั่งทางใจ ให้เบาบางลง
ได้อีกด้วย ความบริสุทธิ์ของกาย วาจา และใจ ก็จะมีมากขึ้นตามลำดับ
7.3.3 ประเภทของพระสกิทาคามี
ดังที่นักศึกษาทราบแล้วว่า พระสกิทาคามีจะเกิดอีกเพียงชาติเดียว ซึ่งประเภทของพระสกิทาคามี
ที่จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในอนาคตมี 5 ประเภทดังนี้
ประเภทที่ 1 คือ ผู้ที่ครั้งเป็นมนุษย์ได้สำเร็จเป็นพระสกิทาคามีบุคคล ครั้นอุบัติไปเป็นเทวดาใน
เทวโลก และเมื่อจุติกลับมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง ก็จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ และดับขันธ์เข้าสู่
พระนิพพาน
ประเภทที่ 2 คือ ผู้ที่สำเร็จเป็นพระสกิทาคามีในมนุษยโลก แล้วทำความเพียรต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
จนกระทั่งบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ และดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพาน ในขณะที่เป็นมนุษย์นั้นเอง
ประเภทที่ 3 คือ ผู้ที่สำเร็จเป็นพระสกิทาคามีตั้งแต่ตอนเป็นมนุษย์ เมื่ออุบัติเป็นเทวดาได้เจริญ
ภาวนาต่อจนได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ และดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพานในเทวโลกนั้น
ประเภทที่ 4 คือ เทวดาที่บำเพ็ญเพียรภาวนา จนกระทั่งบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในเทวโลก
และดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพานในเทวโลกนั้นเอง
ประเภทที่ 5 คือ ท่านที่สำเร็จเป็นพระสกิทาคามีตอนเป็นเทวดา แต่ครั้นหมดอายุขัยจุติมาเกิด
เป็นมนุษย์ พร้อมกับมีบุญในตัวที่ทำไว้ติดตามมา เมื่อได้เจริญภาวนา ก็ย่อมบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ และ
เข้านิพพานในมนุษยโลกนี้เอง
7.4 อนาคามีโลกุตรภูมิ
ภูมิของพระอนาคามีเป็นโลกุตรภูมิลำดับที่ 3 ของโลกุตรภูมิ ซึ่งจะต้องเจริญภาวนาผ่าน
พระโสดาบันโลกุตรภูมิ และสกิทาคามีโลกุตรภูมิมาก่อน จึงจะเข้าถึงภาวะแห่งความเป็นพระอนาคามี
7.4.1 ความหมายของอนาคามีโลกุตรภูมิ
อนาคามิโลกุตรภูมิ คือ ภูมิที่พ้นจากภพ 3 ของผู้ที่จะไม่กลับมาเกิดอีก หมายความว่า ผู้ที่เข้าถึง
ภูมินี้แล้ว ย่อมได้ชื่อว่า เป็นพระอนาคามี เป็นพระอริยบุคคลในลำดับที่ 3 ในพระพุทธศาสนาต่อจาก
พระสกิทาคามี และจะไม่กลับมาเกิดในกามภพอีก
ในภาคปฏิบัติการเจริญภาวนาเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ได้
ขยายความในส่วนนี้ว่า หมายถึง ภาวะที่เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระธรรมกายอนาคามี ซึ่งมีอยู่
ภายในกลางกายของทุกคน
148 DOU ป ร โ ล ก วิ ท ย า