การวินิจฉัยบุญบาปในยมโลก GL 102 ปรโลกวิทยา หน้า 60
หน้าที่ 60 / 180

สรุปเนื้อหา

พญายมราชเป็นผู้ตัดสินบุญบาปในยมโลก มีหน้าที่ตรวจสอบกรรมของสัตว์นรกด้วยการซักถามและเปิดบัญชีบาปและบุญ ซึ่งจะทำให้สัตว์นรกได้เห็นการกระทำของตนเอง ทั้งในด้านดีและไม่ดี ก่อนที่จะถูกลงโทษตามกรรมที่ได้กระทำมา การวินิจฉัยนี้ช่วยให้สัตว์นรกได้รู้จักบุญที่ตนทำและผลกรรมที่ตามมา เมื่อพญายมราชสั่งให้เจ้าหน้าที่ลงโทษตามกรรม จะมีการพิพากษาแบบเป็นระบบ

หัวข้อประเด็น

-พญายมราช
-สุวรรณเลขา
-ยมทูต
-การวินิจฉัยบุญบาป
-กรรมและผลกรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พญายมราช เป็นกุมภัณฑ์ชั้นดี มีเครื่องประดับแบบเรียบๆ คล้ายชุดลำลองที่ใส่มาทำงาน มีบุญ มากกว่ากุมภัณฑ์ที่ทำหน้าที่อื่นๆ มีหน้าที่วินิจฉัยบุญบาปของสัตว์นรก ทำหน้าที่สั่งการเหมือนเป็น หัวหน้าศาลอย่างเมืองมนุษย์ สุวรรณเลขา เป็นกุมภัณฑ์ชั้นดี มีหน้าที่ตรวจบัญชีบุญที่ทำจากแผ่นทองคำ สุวานเลขา เป็นกุมภัณฑ์ชั้นดี มีหน้าที่ตรวจบัญชีบาป ที่ทำจากหนังสัตว์ ยมทูต เป็นกุมภัณฑ์ที่บุญน้อยลงมา มีหน้าดุดัน ตาโตแดง ผิวดำ นุ่งผ้าหยักรั้งสีแดง มีหน้าที่ไป รับตัวผู้หมดอายุขัยในโลกมนุษย์มาสู่ยมโลกหรือผู้ที่มาจากอุสสทนรกมาสู่ยมโลกซึ่งจะประกอบด้วยหัวหน้าชุด ผู้มีกำลังบุญมากกว่าทหารยมทูต มีเครื่องประดับเป็นสร้อยทองคำขนาดใหญ่ ในมือถือโซ่ตรวน ส่วนทหาร ยมทูตนั้นไม่มีเครื่องประดับ ในมือถืออาวุธ เวลาไปรับตัวกายละเอียด จะไปเป็นชุด 3 ตนบ้าง 5 ตนบ้าง 7 ตนบ้าง แล้วแต่ผู้ตายว่า มียศตำแหน่ง มีอำนาจในเมืองมนุษย์มากน้อยเพียงใด เพื่อเป็นการข่มขวัญนั่นเอง เจ้าหน้าที่ยมโลกทั่วไป เป็นกุมภัณฑ์ทั่วไป มีหน้าที่ควบคุมสัตว์นรก และลงโทษสัตว์นรก กรณี ที่มีสัตว์นรกมาก กุมภัณฑ์ไม่เพียงพอ ก็จะมียักษ์ ครุฑ นาค พันธุ์ดุ ที่มีเศษกรรมประเภทนี้อาสามาช่วยงานด้วย ง. การพิพากษาบุญบาป เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่จะเรียกตัวสัตว์นรกที่มีกายเปลือยเปล่า เข้ารับการวินิจฉัยบุญบาป เจ้าหน้าที่ จะคุมตัวเข้าไปนั่งต่อหน้าพญายมราช แล้วการวินิจฉัยก็เริ่มขึ้น โดยที่พญายมราชจะซักถามด้วยเสียงที่ดัง น่าเกรงขาม ยกตัวอย่างการวินิจฉัยบุญบาป พญายมราชจะซักถามชื่อ ที่อยู่ ฯลฯ เมื่อซักถามเรื่องพื้นฐาน เรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะถามเรื่องบุญและเรื่องบาป เช่น ถามว่า “เจ้ารู้ไหม ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่” ส่วนใหญ่จะตอบเหมือนกันว่า “ไม่รู้” พญายมราชจะบอกว่า เพราะเจ้าทำกรรมอย่างนั้นอย่างนี้ กายละเอียด ก็ปฏิเสธว่า ไม่เคยทำ เมื่อปฏิเสธ พญายมราชจะสั่งให้สุวานเลขาเปิดบัญชีบาป บัญชีของสุวานเลขาก็จะ มีภาพการกระทำของคนนั้นปรากฏ และภาพนั้นก็มาฉายอยู่หน้าบัลลังก์ของพญายมราช เป็นภาพใน ลักษณะที่ลอยออกมาจากฝาผนัง กายละเอียดจะเห็นการกระทำของตนเอง สมมุติว่า ดื่มเหล้าเมา ภาพ ปรากฏอยู่ที่สุวานเลขาก่อน แล้วก็มาปรากฏที่หน้าจอของพญายมราช เห็นภาพตนเองกำลังเมา เมาแล้ว ไปฆ่าสัตว์ ภาพฆ่าสัตว์เกิด ฆ่าแล้วเอามาขาย ขายแล้วซื้อเหล้ามาดื่ม ชวนเพื่อนขี้เมามากินเหล้าด้วยกัน พอเงินหมดก็ไปขโมยทรัพย์ เอาของไปขายแล้วเอาเงินมาซื้อเหล้า พอเมาได้ที่แล้วก็ร้องรำทำเพลง ภาพ ปรากฏขึ้นมาทั้งหมด หลอกกันไม่ได้เลย เมื่อสัตว์นรกเห็นภาพการกระทำของตนก็เศร้าซึม ใจหมอง เมื่อดูภาพบาปแล้ว พญายมราชจะถามว่า “แล้วเจ้าเคยทำบุญอะไรบ้าง” กายละเอียดตอบว่า “จำไม่ได้” เพราะอยู่ตรงนั้นบรรยากาศต่างๆ จะทำให้กายละเอียดหวาดกลัว พญายมราชก็สั่งให้สุวรรณ เลขาเปิดบัญชีบุญดู ปรากฏว่า ความดีที่ทำมีอยู่หน่อยหนึ่ง คือ เคยเกี่ยวหญ้ามาเลี้ยงวัว เพราะความเอ็นดู ทำทานกับสัตว์เดียรัจฉานอย่างเดียว ใจก็ได้ปลื้มมาก เมื่อดูภาพทั้งบุญและบาปแล้ว พญายมราชสรุปว่า “เจ้าทำบาปมาก เจ้าก็เห็นด้วยตัวของเจ้าเอง แล้ว และญาติก็ไม่ได้ทำบุญส่งมาให้ ให้เจ้าหน้าที่นำตัวไปลงโทษสมควรแก่กรรมต่อไป” การวินิจฉัยบุญบาปของพญายมราชนี้ เพื่อให้โอกาสกายละเอียดนั้นได้นึกถึงบุญที่ตนทำไว้เมื่อ 50 DOU ป ร โ ล ก วิ ท ย า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More