ข้อความต้นฉบับในหน้า
1. อากาสานัญจายตนภูมิ คือ ภูมิอันเป็นที่อยู่ของผู้บรรลุอากาสานัญจายตนฌาน หรืออรูปฌาน
ที่ 1 คือ บำเพ็ญฌานโดยเอาอากาศไม่มีที่สิ้นสุดเป็นอารมณ์ ภูมินี้อยู่สูงจากอกนิฏฐสุทธาวาสภูมิขึ้นมา
ห้าล้านห้าแสนแปดพันโยชน์ อรูปพรหมในชั้นนี้มีอายุ 20,000 มหากัป
2. วิญญาณัญจายตนภูมิ คือ ภูมิอันเป็นที่อยู่ของผู้บรรลุวิญญาณัญจายตนฌาน หรืออรูปฌาน
ที่ 2 คือ บำเพ็ญฌานโดยเอาความรู้สึกว่ามีอากาศมาเป็นอารมณ์ ภูมินี้อยู่สูงจากอากาสานัญจายตนภูมิ
ขึ้นมาห้าล้านห้าแสนแปดพันโยชน์ อรูปพรหมในชั้นนี้มีอายุ 40,000 มหากัป
3. อากิญจัญญายตนภูมิ คือ ภูมิอันเป็นที่อยู่ของผู้บรรลุอากิญจัญญายตนฌาน หรืออรูปฌาน
ที่ 3 คือ บำเพ็ญฌานโดยเอาความว่างที่ละเอียดยิ่งกว่าอากาศ (อวกาศ) ที่ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยเป็นอารมณ์
ภูมินี้อยู่สูงจากวิญญาณัญจายตนภูมิขึ้นมาห้าล้านห้าแสนแปดพันโยชน์ อรูปพรหมในชั้นนี้มีอายุ 60,000
มหากัป
อาฬารดาบส กาลามโคตร ซึ่งเป็นอาจารย์ของเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อครั้งทรงออกแสวงหา
โมกขธรรม เมื่อละโลกแล้วก็มาบังเกิดเป็นอรูปพรหมในชั้นนี้
4. เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ คือ ภูมิอันเป็นที่อยู่ของผู้บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน
หรืออรูปฌานที่ 4 คือ บำเพ็ญฌานโดยเอาความรู้สึกว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยละทิ้งไป เอาความรู้สึกที่นิ่ง
สนิท มีแต่สัญญาอย่างละเอียดเป็นอารมณ์ ภูมินี้อยู่สูงจากอากิญจัญญายตนภูมิขึ้นมาห้าล้านห้าแสนแปด
พันโยชน์ เป็นอรูปภูมิชั้นที่สูงที่สุด และเป็นภูมิที่อยู่สูงกว่าภูมิใดๆ ในภพ 3 อรูปพรหมในชั้นนี้มีอายุ 84,000
มหากัป
อุททกดาบส รามบุตร ซึ่งเป็นอาจารย์ของเจ้าชายสิทธัตถะ เมื่อครั้งทรงออกแสวงหาโมกขธรรม
เมื่อละโลกแล้วก็มาบังเกิดเป็นอรูปพรหมในชั้นนี้
สรุป
นักศึกษาได้ทราบแล้วว่า การมาบังเกิดเป็นอรูปพรหมนั้น เมื่อครั้งเป็นมนุษย์จะต้องหมั่นสั่งสม
บุญทั้งทาน ศีล ภาวนา โดยเฉพาะการเจริญภาวนา จะต้องทำจนถึงขั้นได้อรูปฌาน เป็นฌานที่สูงกว่า
รูปฌานขึ้นไปอีก เมื่อละโลกแล้วจึงมาบังเกิดเป็นอรูปพรหมอยู่ในอรูปภพ มีอายุขัยยืนยาวนานมากดังกล่าว
มาแล้ว ด้วยเหตุนี้เองจึงยากที่จะมีโอกาสได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาบังเกิด
เป็นพันเป็นหมื่นพระองค์ อรูปพรหมทั้งหลายก็ยังคงมีชีวิตอยู่บนอรูปภพ ไม่มีโอกาสได้ฟังธรรม โอกาสที่
จะหลุดพ้นจากวัฏสงสารก็ยิ่งยากมากกว่ารูปพรหมหลายเท่านัก อรูปพรหมจึงได้ชื่อว่าเป็นอภัพพสัตว์ คือ
ไม่สามารถหลุดพ้นจากทุกข์ได้ในชาตินั้น นอกจากนี้ เมื่อถึงคราวหมดบุญจากอรูปพรหมแล้ว ก็ยังต้องมา
เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารต่อไปอีก ซึ่งไม่แน่ว่าจะต้องไปเกิดเป็นอะไรต่อไป อาจเป็นเทวดา มนุษย์
หรือเกิดในอบายภูมิ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรรมในอดีตที่มาส่งผลในช่วงนั้น
ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต และเพื่อความปลอดภัยจากภัยในอบาย นักศึกษา
จึงควรหมั่นสั่งสมบุญให้มาก ทั้งทาน ศีล ภาวนา และอธิษฐานให้ตนเองได้หลุดพ้นจากทุกข์ ได้พบ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือได้พบกัลยาณมิตรที่จะแนะนำเราให้สร้างความดีอย่างต่อเนื่องตลอดไป
ป ร โ ล ก วิ ท ย า DOU 139