ข้อความต้นฉบับในหน้า
ตัวไหนเป็นเปรต ตัวไหนเป็นอสุรกาย ในหัวข้อนี้
นักศึกษาจะได้ทำความเข้าใจในเรื่องของอสุรกาย
จนสามารถแยกแยะได้ว่า เปรตและอสุรกาย
แตกต่างกันอย่างไร
อสุรกายภูมิ จัดเป็นอบายภูมิอันดับที่ 3
เป็นปรโลกฝ่ายทุคติ ที่ชื่อว่า อสุรกายภูมิ เพราะ
เป็นสถานที่ปราศจากความร่าเริง สัตว์ที่ละโลก
จากอัตภาพที่เป็นมนุษย์ไปเป็นอสุรกายก็ดี หรือ
หมดกรรมจากมหานรกมาเป็นอสุรกายก็ดี ย่อมไม่
ได้รับความบันเทิงใจ ไม่มีความสนุกสนานร่าเริง
หมอสุรุเว
อย่างโลกมนุษย์ จะต้องได้รับทุกขเวทนาอย่างเผ็ดร้อนจากผลกรรมชั่วที่ตนกระทำไว้ครั้งเป็นมนุษย์ เป็น
ระยะเวลาที่ยาวนานทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังทุกข์ทรมานเบาบางกว่าในมหานรก อุสสทนรก และยมโลกมาก
2.3.1 ที่ตั้งของอสุรกายภูมิ
อสุรกายมีรูปร่างลักษณะคล้ายเปรต เวทนาที่ได้รับก็คล้ายคลึงกันมาก แม้แต่ที่อยู่อันเป็นที่ตั้ง
ของภูมิอสุรกายก็อยู่ที่เดียวกัน คือ อยู่ใต้เขาสิเนรุ อยู่ในซอกเขาอีกชั้นหนึ่ง อยู่ในภูมิเดียวกับเปรต
2.3.2 ลักษณะความเป็นอยู่ของอสุรกาย
เมื่อกล่าวถึงชีวิตความเป็นอยู่ของอสุรกายทั้งหลาย มีชีวิตอยู่อย่างแสนลำเค็ญเช่นเดียวกับเหล่า
เปรตส่วนมาก เช่น อสุรกายบางตนมีสรีระร่างกายน่าเกลียดพิลึกเพราะมีกายผ่ายผอม ตัวสูงชะลูดนับได้
เป็นร้อยเป็นพันวาขึ้นไป เนื้อและโลหิตในสรีระร่างกายดูเหมือนไม่มีสักนิด มีแต่หนังหุ้มกระดูก เหมือน
สัตว์ตายซาก ประดุจดังใบไม้แห้ง กลิ่นตัวเหม็นสาบเหม็นสางสุดประมาณ มีดวงตาเล็กเท่ากับตาของปูที่
เราเห็นกันอยู่ในมนุษยโลก และตาไม่ได้ตั้งอยู่ที่ใบหน้าเหมือน
อย่างตาของมนุษย์เรา แต่ว่าตั้งอยู่บนศีรษะตรงกระหม่อม มีปาก
เล็กมาก ประมาณเท่ารูเข็ม อยู่บนศีรษะกลางกระหม่อมใกล้ๆ กับ
ดวงตา
นอกจากจะมีรูปร่างแปลกพิลึกน่าทุเรศดังกล่าวมาแล้ว
อสุรกายทั้งหลายยังมีความเป็นอยู่อย่าง แสนจะลำบากยากเย็น
ต้องเผชิญกับความหิวกระหายอยู่ตลอดเวลา ด้วยการแสวงหา
อาหารนั้น เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะความที่มีตาเล็ก ไม่
สมกับร่างซึ่งสูงชะลูด มิหนำซ้ำยังตั้งอยู่บนศีรษะกลางกระหม่อมเสียอีก ทำให้มองเห็นอาหารได้ยาก แม้
เมื่อพบเจออาหารตามอสุรกายวิสัยแล้ว จะกินอาหารแต่ละครั้งก็ยังลำบากเพราะว่าปากตั้งอยู่กลาง
กระหม่อมบนศีรษะ เวลาจะบริโภคอาหารจึงต้องเอาหัวปักลงมาข้างล่างเอาตีนชี้ฟ้า ต้องตั้งท่าอย่างนี้จึง
ป ร โ ล ก วิ ท ย า DOU 67