ข้อความต้นฉบับในหน้า
ความต่างกันแห่งอินทรีย์ทั้ง 2 คือ เจโตวิมุตติอรหันต์ อาศัยสมาธินทรีย์เป็นตัวนำในการกำจัดราคะ
ส่วนปัญญาวิมุตติอรหันต์ อาศัยปัญญินทรีย์ที่แก่กล้าเป็นตัวนำในการกำจัดอวิชชา
สรุป
นักศึกษาคงมีความเข้าใจในเรื่องของโลกุตรภูมิมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของภูมิที่พ้นจากภพ 3 พ้น
จากการเวียนว่ายตายเกิดตามลำดับของการตัดกิเลสของพระอริยบุคคลทั้ง 4 ประเภท คือ พระโสดาบัน
พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์
การเข้าถึงความเป็นพระอริยบุคคลทั้ง 4 ประเภท ต้องละสังโยชน์ไปตามลำดับ จึงจะเข้าถึง
สภาวธรรมของพระอริยบุคคลต่างๆ ได้ เช่น การเป็นพระโสดาบันต้องเข้าถึงสภาวธรรมที่ทำเป็นพระโสดาบัน
คือ ละสังโยชน์เบื้องต้นได้ 3 ประการ การเป็นพระสกิทาคามี ก็ต้องเข้าถึงสภาวธรรมที่ทำให้เป็น
พระโสดาบันก่อน แล้วจึงจะต่อด้วยการเข้าถึงสภาวธรรมที่ทำให้เป็นพระสกิทาคามี สามารถทำสังโยชน์
เบื้องต่ำที่เหลืออีก 2 ชนิด ให้เบาบางลงได้ การเป็นพระอนาคามีบุคคล ต้องผ่านสภาวธรรมที่ทำให้เป็น
พระโสดาบัน และพระสกิทาคามีมาก่อน และการที่จะเป็นพระอรหันต์ได้ ต้องผ่านขั้นตอนของการเข้าถึง
สภาวธรรมของพระอริยบุคคลทั้ง 3 ประเภทก่อน จึงบรรลุเป็นพระอรหันต์ พระอริยบุคคลขั้นสูงสุดใน
พระพุทธศาสนา
พระอริยบุคคลทั้ง 4 ประเภทนั้น เป็นผู้เข้าถึงกระแสแห่งพระนิพพาน ตามลำดับเช่นกัน ถ้าเป็น
พระอริยบุคคล 3 ขั้นแรก สามารถรู้เห็น เข้าถึงและรู้รสแห่งนิพพานสุขได้ตามส่วนกิเลสที่ตนละได้ ส่วน
พระอรหันต์นั้น สามารถกำจัดกิเลสได้หมดสิ้น จึงเข้าถึงนิพพานและสัมผัสรู้รสแห่งนิพพานได้อย่างเต็มที่
ดังนั้น โลกุตรภูมิจึงเป็นภูมิที่สำคัญที่สุด และเป็นเป้าหมายสูงสุดของการเกิดมาเป็นมนุษย์
โดยเฉพาะพระอรหันต์อันเป็นพระอริยบุคคลขั้นสุดท้ายของการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ เมื่อนักศึกษา
ทราบอย่างนี้แล้ว ก็จะได้ฝึกฝนตนเองให้ตรงเป้าหมายของการเกิดมาเป็นมนุษย์ให้สำเร็จต่อไป
ป ร โ ล ก วิ ท ย า DOU 151