ความฉลาดของเราในอปัณณกสูตร GL 102 ปรโลกวิทยา หน้า 168
หน้าที่ 168 / 180

สรุปเนื้อหา

อปัณณกสูตรเสนอให้ผู้สนับสนุนศึกษาข้อปฏิบัติที่ไม่ผิดจากความเชื่อที่ไม่แน่นอน เช่น การทำทาน และการมีบุญบาป ในกรณีของการปฏิบัติเพื่อบรรลุนิพพาน ผู้ที่เป็นบัณฑิตควรไม่ปักใจเชื่อทันทีในสิ่งที่ยังไม่เห็น จึงควรลงมือทำไปเพื่อถึงความรู้แจ้ง ในการทำฌานอย่างแท้จริง ตามแนวทางที่นักปราชญ์ได้ปฏิบัติ เพื่อคลายกำหนัดและบรรลุถึงนิพพานตามที่ได้ศึกษาและปฏิบัติ.

หัวข้อประเด็น

-แนวคิดที่ไม่ปักใจเชื่อ
-การทำทานและความเป็นจริงของบุญบาป
-การเกิดในอรูปพรหม
-ความดับสนิทแห่งภพ (นิพพาน)
-การศึกษาทั้งข้อปฏิบัติและการตรองตรึก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ความฉลาดของเรา กล่าวไว้ใน อปัณณกสูตร โดยสรุปความว่า ควรหันมาศึกษาแนวคิดและข้อปฏิบัติอันไม่ผิดในสิ่งที่ผู้รู้สมัยก่อนใช้ตัดสินใจ ดังที่ท่าน 1. ถ้ามีสมณพราหมณ์สองพวก พวกหนึ่งบอกว่า การทำทานไม่มีผล บุญบาปไม่มี โลกนี้โลกหน้า เป็นต้น ไม่มี อีกพวกหนึ่งบอกว่า มี เราจะมีหลักคิดพิจารณาอย่างไร นักปราชญ์สมัยนั้นเขาคิดว่า ในคำพูด ของสมณพราหมณ์ทั้งสองนั้น เราก็ยังไม่รู้ไม่เห็น จึงไม่ควรปักใจเชื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เราคิดว่า ถ้า การทำทาน บุญบาป โลกนี้โลกหน้าไม่มีจริง คนที่ประพฤติทุจริตก็ยังถูกติเตียนว่าเป็นผู้ทุศีล และไม่เป็นที่ ยกย่องของบัณฑิต แต่ถ้าโลกหน้ามีจริงคนที่ประพฤติทุจริตนอกจากถูกติเตียนในโลกนี้แล้ว ยังต้องพลัดไป สู่อบาย ทุคติ วินิบาต ส่วนคนที่ประพฤติสุจริตแม้ถ้าโลกหน้าไม่มีอยู่จริงเขาย่อมได้รับคำสรรเสริญในโลกนี้ ถ้าโลกหน้ามีจริง เขาย่อมได้ไปสู่สุคติโลกสวรรค์ 2. ถ้ามีสมณพราหมณ์สองพวก พวกหนึ่งบอกว่า อรูปพรหมไม่มีอยู่โดยประการทั้งปวง อีก พวกหนึ่งบอกว่า อรูปพรหมมีอยู่โดยประการทั้งปวง นักปราชญ์สมัยนั้นคิดว่า เราไม่รู้ไม่เห็นในวาทะ(คำพูด) ทั้งสองอย่าง การที่เราจะเชื่ออย่างใดอย่างหนึ่งว่าจริง เป็นการไม่สมควร แต่เราคิดว่า ถ้าเราทำฌานให้ เกิดขึ้น ถ้าอรูปพรหมไม่มีจริง อย่างน้อยเราก็ได้ไปเกิดเป็นรูปพรหม แต่ถ้าอรูปพรหมมีจริง เราจะ ได้ไปเกิดเป็นอรูปพรหม 3. ถ้ามีสมณพราหมณ์สองพวก พวกหนึ่งบอกว่า ความดับสนิทแห่งภพ (นิพพาน) ไม่มีโดย อาการทั้งปวง อีกพวกหนึ่งบอกว่า ความดับสนิทแห่งภพมีอยู่โดยอาการทั้งปวง นักปราชญ์สมัยนั้นคิดว่า เราไม่รู้ไม่เห็น การจะยึดถือคำพูดคนใดคนหนึ่งเป็นการไม่สมควร แต่เราควรทำอรูปฌานให้เกิดขึ้น อาศัย อรูปฌานเป็นบาทเจริญวิปัสสนา ถ้าคำพูดของคนแรกเป็นจริง (ที่ว่านิพพานไม่มี) ข้อที่ เราจักเกิดขึ้นใน เหล่าเทวดาที่ไม่มีรูป (อรูปพรหม) สำเร็จด้วยสัญญา ซึ่งไม่เป็นความผิด นี้เป็นฐานะที่มีได้ อนึ่ง ถ้าคำของท่านสมณพราหมณ์ที่มีวาทะอย่างนี้มีความเห็นอย่างนี้ว่า ความดับสนิทแห่งภพ (นิพพาน) มีอยู่ด้วยอาการทั้งปวง ดังนี้ เป็นคำจริง ข้อที่เราจักปรินิพพานในปัจจุบัน เป็นฐานะที่จะมีได้ ความเห็นของท่านสมณพราหมณ์ที่มีวาทะว่า ความดับสนิทแห่งภพ(นิพพาน) ไม่มีอย่างนี้ ใกล้ต่อธรรมเป็นไปกับด้วยความกำหนัด ใกล้ต่อธรรมเครื่องประกอบสัตว์ไว้ใกล้ต่อธรรมเครื่องเพลิดเพลิน ใกล้ต่อธรรมเครื่องสอบ ใกล้ต่อธรรมเครื่องถือมั่น ส่วนความเห็นของท่านสมณพราหมณ์ที่มีวาทะอย่างนี้ว่า ความดับสนิทแห่งภพมีอยู่ด้วยอาการ ทั้งปวงนี้ ใกล้ต่อธรรมอันไม่เป็นไปกับด้วยราคะ ใกล้ต่อธรรมอันมิใช่ธรรมประกอบสัตว์ไว้ ใกล้ต่อธรรมอัน มิใช่เครื่องเพลิดเพลิน ใกล้ต่อธรรมอันมิใช่เครื่องสอบ ใกล้ต่อธรรมอันไม่เป็นเครื่องยึดมั่น บุรุษผู้เป็นวิญญู นั้น ครั้นพิจารณาเห็นดังนี้แล้ว ย่อมปฏิบัติเพื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับสนิทแห่งภพเท่านั้น จากเนื้อหาในพระสูตรข้างต้น ทำให้เราได้ข้อสรุปว่า ผู้ที่เป็นบัณฑิตนักปราชญ์สมัยนั้น ท่านคิด และปฏิบัติแบบนี้ คือ ไม่เชื่อแต่ไม่ปฏิเสธในสิ่งที่ตนเองยังไม่รู้ไม่เห็นทันที แต่จะลงมือศึกษาและปฏิบัติ สุจริตธรรมจนรู้แจ้งเห็นจริงได้ด้วยตนเอง ดังนั้นนักศึกษาก็จะต้องปฏิบัติตามบัณฑิตนักปราชญ์ในกาลก่อน อปัณณกสูตร, มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์, มก. เล่ม 20 ข้อที่ 103-124 หน้า 223-253. 158 DOU ป ร โ ล ก วิ ท ย า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More