การเจริญภาวนาเพื่อเข้าถึงพระธรรมกาย GL 102 ปรโลกวิทยา หน้า 156
หน้าที่ 156 / 180

สรุปเนื้อหา

ในภาคปฏิบัติสำหรับการเจริญภาวนาเพื่อเข้าถึงพระธรรมกายของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เป็นการเข้าถึงภาวะที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระธรรมกาย โสดาบัน ที่มีอยู่กลางกายของทุกคน ซึ่งในพุทธกาล มีจำนวนมากที่บรรลุธรรม จัดการวัดความบรรลุธรรมนั้นโดยการขจัดกิเลสอาสวะออกอย่างสิ้นเชิง การละสังโยชน์สามารถแยกได้เป็น 3 ประเภท ซึ่งจะลดเวลาการเวียนว่ายตายเกิดลง โดยพระโสดาบันจะเกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ ประเภทของพระโสดาบันมี 3 ประเภท ได้แก่ เอกพีชี, โกลังโกล และสัตตักขัตตุปรม

หัวข้อประเด็น

-การเจริญภาวนา
-พระธรรมกาย
-คุณวิเศษของพระโสดาบัน
-ประเภทของพระโสดาบัน
-การขจัดกิเลสอาสวะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ในภาคปฏิบัติของการเจริญภาวนาเพื่อเข้าถึงพระธรรมกาย ของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ได้ขยายความในส่วนนี้ว่า หมายถึง ภาวะที่เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระธรรมกายโสดาบัน ซึ่งมี อยู่ภายในกลางกายของทุกคน 7.2.2 คุณวิเศษของพระโสดาบัน เราจะเห็นว่า ในสมัยพุทธกาลมีผู้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันเป็นจำนวนมาก ทั้งบรรพชิตและ คฤหัสถ์ แล้วใช้อะไรเป็นหลักในการตรวจสอบว่า คนนั้นบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน เขาวัดกันที่การขจัด กิเลสอาสวะให้หมดไปจากใจ ซึ่งพระโสดาบันสามารถละสังโยชน์เบื้องต่ำได้ 3 ชนิด คือ 1. สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นว่าเป็นตัวของตน ความเห็นเป็นเหตุถือตัวตน เช่น เห็นรูปเป็น ตน เห็นเวทนาเป็นตน 2. วิจิกิจฉา คือ ความสงสัยในพระรัตนตรัย และในกุศลธรรมทั้งหลาย 3. สีลัพพตปรามาส คือ ความยึดมั่นในข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัดที่เข้าใจว่าเป็นข้อปฏิบัติที่บริสุทธิ์ หลุดพ้น เช่น การประพฤติวัตรอย่างโค การนอนบนหนามของพวกโยคี เป็นต้น 7.2.3 ประเภทของพระโสดาบัน ดังที่กล่าวมาแล้วพระโสดาบันสามารถละสังโยชน์ 3 ประการ ตัดขาดออกจากใจได้สิ้นเชื้อ ไม่เหลือเศษนั้น แม้ว่าจะตัดสังโยชน์ได้เพียง 3 ประการก็ตาม แต่ก็สามารถตัดเส้นทางในการเวียนว่าย ตายเกิดให้สั้นลงได้อีกด้วย เพราะผู้เป็นโสดาบันบุคคลมีกฎตายตัวว่า ย่อมเกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ ซึ่ง สามารถแบ่งประเภทของพระโสดาบันได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้ ประเภทที่ 1 เอกพีชีโสดาบัน จะเกิดเพียงชาติเดียว เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อการเสวยวิมุตติสุขในอาย ตนนิพพานมากที่สุด เพราะเมื่อมาเกิดแล้ว ลงมือปฏิบัติธรรมก็จะได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ซึ่งเป็น พระอริยบุคคลที่สูงสุดในพระพุทธศาสนา ประเภทที่ 2 โกลังโกลโสดาบัน เป็นพระอริยบุคคลที่มีความพิเศษรองลงมา คือ จะมาเกิดอีก เพียง 2-3 ชาติเท่านั้น แล้วจะได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ประเภทที่ 3 สัตตักขัตตุปรมโสดาบัน คือ เป็นพระอริยบุคคล ที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิดใน สังสารวัฏอีกไม่เกิน 7 ชาติ ก็จะได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป การที่พระโสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังที่กล่าวมา เพราะว่าการสั่งสมบุญบารมี อีกทั้งอินทรีย์ 5 ที่อบรมมาแตกต่างกัน เช่น ผู้ที่สร้างบารมีมาอย่างแก่กล้า เกิดในภพชาตินี้ เมื่ออินทรีย์ทั้ง 5 ประการ คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา ถึงความแก่รอบสม่ำเสมอ ก็สามารถบรรลุผลได้อย่างรวดเร็ว พระโสดาบันประเภทนี้ คือ ประเภทเอกพีชีดังกล่าว สังคีติสูตร, ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค, มก. เล่ม 16 ข้อ 284 หน้า 201 * เอกาภิญญาสูตร, สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค, มก. เล่ม 31 ข้อ 900 หน้า 32. 146 DOU ป ร โ ล ก วิ ท ย า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More