ข้อความต้นฉบับในหน้า
สัตว์นรกก็ยังไม่ตาย มีหัวใหม่เกิดขึ้นมาอีก แล้วก็
จะถูกกระทำอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่าจะหมด
กรรม
บุพกรรมของสัตว์นรก คือ ทำกรรมฆ่า
สัตว์ เช่น จับเอาสัตว์เป็นๆ มาใส่ลงในหม้อน้ำ
ร้อนเพื่อเอามาทำเป็นอาหาร หรือไม่ก็ทำกรรมชั่ว
อย่างอื่น
แต่ภายหลังสำนึกผิดจึงพยายาม
ประกอบสิ่งที่เป็นกุศล
ขุมที่ 2 สิมพลีนรก
สิมพลีนรก คือ นรกป่าไม้งิ้ว มีลักษณะเป็นป่าไม้งิ้ว ที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคมเป็นกรด ยาว
ประมาณ 16 องคุลี ลุกเป็นไฟเสมอไม่มีวันดับ นรกขุมนี้เต็มไปด้วยสัตว์นรกชายหญิง บางเวลาสัตว์นรก
หญิงขึ้นไปคอยอยู่บนต้นงิ้วก่อน สัตว์นรกชายก็จะถูกนายนิรยบาลทุบตีด้วยหอก แหลนหลาว ขู่ตะคอกให้ขึ้นไป
ด้วยความกลัวจึงต้องปีนป่ายต้นงิ้วจนเลือดสาดไปทั่วทั้งตัว จนสัตว์นรกต้องอ้อนวอนยมบาล ยมบาลก็ยิ่ง
กระหน่ำตี แทง ซ้ำลงไปอีก พอไปถึงปลายยอดจิ๋วนั้น ทั้งๆ ที่เจ็บปวดปิ่มว่าจะขาดใจ สัตว์นรกหญิงพลัน
ตกลงมาเบื้องล่างในทันที นายนิรยบาลก็จะใช้หอก หลาว ทิ่มแทง ขับไล่ไสส่งให้ป่ายปีนขึ้นไปอีก แม้เลือด
เนื้อจะสาดท่วมตัวมากมายขนาดไหนก็ตาม สัตว์นรกชายหญิงก็จะเวียนปีนป่ายต้นงิ้วอยู่อย่างนั้น
สัตว์นรกบางตัวในขณะที่กำลังป่ายปีนอยู่นั้น ก็จะถูกแร้งกาซึ่งมีปากเป็นเหล็กคอยจิก ทิ้ง อวัยวะ
น้อยใหญ่กินเป็นภักษาหาร ให้ได้รับความทุกข์ทรมานหนักยิ่งขึ้น ครั้นตกลงมาข้างล่างก็ถูกสุนัขนรกตัว
ใหญ่มหึมา รุมกัดกินเนื้อสัตว์นรกนั้น เป็นการสมทบช่วยทรมานสัตว์นรกอีกแรงหนึ่ง
บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ ได้ทำผิดศีลข้อที่ 3 คือ กาเมสุมิจฉาจาร คือ คบชู้
ถ้าเป็นชายก็เป็นชู้กับภรรยาของคนอื่นถ้าเป็นหญิงก็เป็นชู้กับสามีของคนอื่นเป็นคนไม่มีหิริโอตตัปปะประพฤติ
นอกใจภรรยาสามี
ขุมที่ 3 อสินขนรก
ในนรกขุมนี้ สัตว์นรกมีรูปร่างพิกลพิการ เล็บมือเล็บเท้าแหลมยาว กลับกลายเป็นอาวุธ เป็นหอก
เป็นจอบ เป็นเสียมอันคมกล้า เอาเล็บตะกุยเนื้อหนังของตนกินเป็นภักษาหาร เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดกาล
บุพกรรมของสัตว์นรก คือ เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ชอบลักเล็กขโมยน้อย ในสถานที่ที่เป็นสาธารณะ
ของที่เขาถวายแด่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ขุมที่ 4 ตามโพทกนรก
ในนรกขุมนี้ มีหม้อเหล็กต้มน้ำทองแดงอยู่มากมาย พร้อมกับมีก้อนกรวด ก้อนหินปะปนอยู่ด้วย
ในหม้อเหล็กทุกๆ หม้อ นายนิรยบาลก็จะจับสัตว์นรกนั้นนอนหงายเหนือแผ่นเหล็กอันร้อนแรงด้วยเปลวไฟ
52 DOU ป ร โ ล ก วิ ท ย า