ข้อความต้นฉบับในหน้า
ภาวนา - จิต
เศรษฐีอีก ๗ ครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่หายแค้น
ต่อมาทราบว่าเศรษฐีได้สร้างพระคันธกุฎีถวายแด่พระกัสสป
สัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้เผาพระคันธกุฎีนั้นเสีย เพราะคิดว่าเศรษฐีจะ
เศร้าโศกเสียใจ แต่เศรษฐีกลับปีติยินดี เพราะคิดว่าตนจะได้โอกาส
สร้างมหาทานบารมีอีก
ฝ่ายโจรนั้นเมื่อละโลกแล้ว จึงไปเกิดเป็นเปรต แล้วทรงย้ำ
ในตอนท้ายอีกว่าว่า ถ้าไม่มีพระโมคคัลลาน์เป็นพยาน จะไม่ทรงตอบ
ปัญหานี้แก่ผู้ใดเลย
อีกตัวอย่างหนึ่งปรากฏอยู่ในเกวัฏฏสูตร กล่าวว่าเมื่อพระ
สัมมาสัมพุทธเจ้าประทับ ณ ป่ามะม่วงของปาวาริกะ มีบุตรคฤหบดี
คนหนึ่ง ชื่อเกวัฏฏะมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์และชักชวนภิกษุ ผู้มีฤทธิ์
แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ดู แต่พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่าปาฏิหาริย์ที่ยิ่งยวด
คืออนุสาสนีปาฏิหาริย์ หรือการสั่งสอนให้คนบรรลุมรรคผล ปราบกิเลส
ในตัวได้
จากนั้นทรงเล่าเรื่องภิกษุรูปหนึ่งซึ่งอยู่ในที่นั้น เคยสงสัยว่าธาตุ
๔ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ดับไม่เหลือในที่ใด เพราะ
ถ้าที่ตรงไหนไม่มีสิ่งเหล่านี้ แสดงว่าที่ตรงนั้นไม่มีการเกิดกันอีกแล้ว
พระภิกษุรูปนั้นนั่งสมาธิไปถึงชั้นเทวโลก ไปถามคำถามนี้กับ
เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา เทวดาตอบว่าไม่ทราบ แต่ว่าเทวดาชั้นสูงๆ
ขึ้นไปท่านคงทราบให้ไปถามดู ท่านก็เที่ยวถามไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ก็
ไม่มีใครตอบได้ สุดท้ายไปถึงพรหมโลก ไปถามท้าวมหาพรหม ปรากฏ
ว่าท้าวมหาพรหมตอบไม่ตรงคำถาม คือตอบว่ามหาพรหมเป็นผู้ยิ่งใหญ่
เป็นบิดาของหมู่สัตว์ทั้งหลาย พระภิกษุรูปนี้จึงแย้งว่าไม่ได้ถามอย่างนั้น
แต่ท้าวมหาพรหมก็ยังตอบอย่างนั้นอีกถึง ๓ ครั้ง
๓
พระภาวนาวิริยคุณ 44 (เผด็จ ทั ต ต ชีโว)