ข้อความต้นฉบับในหน้า
ภาวนา - จิต
๓๐. นอนทำวัตร
อยากทราบว่านอนทำวัตรเย็น จะผิดหรือถูกอย่างไรคะ ?
การทำวัตรเย็นหรือทำวัตรเช้าก็ตาม เป็นการสวดทบทวน
โอวาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงแสดงไว้ตลอด ๔๕ พรรษา ที่
ทรงประกาศพระศาสนา โอวาทที่พระองค์ทรงมอบให้ไว้ แบ่งออกเป็น
๒ ประเภท คือ
๑. พระโอวาทไช คือพูดเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น ทรง
สอนว่าเกิดแล้วก็แก่ แก่แล้วก็เจ็บ เจ็บแล้วก็ตาย ตายแล้วถ้าไม่ได้
ทำความดีอะไรไว้ เกิดมาชาตินี้ก็เปล่าประโยชน์ หรือทรงเทศน์ว่าโลก
ทั้งโลกไม่มีอะไรแน่นอน มันอนิจจัง มันไม่เที่ยง มันเปลี่ยนไป มัน
ทุกขัง มีแต่ความทุกข์ ทนอยู่ไม่ได้ มันอนัตตาคือไม่มีตัวตน ใคร
บังคับก็ไม่ได้ มันจะต้องเป็นของมันอย่างนั้น พระองค์ก็ทรงเทศน์ซ้ำ
แล้วซ้ำอีกอยู่อย่างนี้ หรือบางคราวก็ทรงเทศน์ปลอบใจคนที่ทุกข์ร้อน
ว่าคนเรา ก็มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ มีตาย มีทุกข์ ตั้งหลายรูปแบบ เรื่อง
เหล่านี้เป็นพระโอวาทไช เจอหน้าเป็นต้องพูดเรื่องนี้ให้ทุกคนได้
คิด
๒. พระโอวาทจร คือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาเฉพาะหน้าหรือ
ต่อหน้าต่อตาคณะสงฆ์สักเรื่อง ก็ทรงเอาเรื่องนั้นยกขึ้นเป็นเหตุใน
การหยิบยกหัวข้อธรรมมาอธิบายให้ฟัง หรือถ้าใครทำผิดพลาดมีเรื่อง
ราวร้อนใจเกิดขึ้น ก็ทรงชี้หนทางแก้ไขให้
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานแล้ว หาใครมา
อบรมสั่งสอนแบบจี้จี้จี้ไชอย่างพระองค์ไม่ได้ พระภิกษุผู้ใหญ่ท่านก็
เลยให้มีการเอาพระโอวาทเหล่านั้นมาเรียบเรียงเป็นบทสวดมนต์สวด
พระภาวนาวิริยคุณ 66 (เผด็จ ทัตตชีโว)