ข้อความต้นฉบับในหน้า
ภาวนา - จิต
ท่านเหล่านี้ถ้ายังไม่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ในชาตินี้ ก็จะกลับ
มาเวียนว่ายตายเกิด เพื่อกลั่นกายให้บริสุทธิ์ขึ้นไปอีก ซึ่งกินเวลา ไม่
เกิน ๗ ชาติ ก็เป็นพระอรหันต์หมดกิเลส ธาตุในกายใสบริสุทธิ์ผุดผ่อง
๑๐๐% ทีเดียว
อริยโคตรชั้นที่ ๒ เรียกว่า พระสกิทาคามี ท่านเหล่านี้กลั่น
กาย กลั่นใจได้บริสุทธิ์กว่าพระโสดาบัน ถ้าไม่สำเร็จเป็นพระอรหันต์
ในชาตินี้ จะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก ๑ ชาติ เพื่อมากลั่นต่อ แล้วก็
หมดกิเลส บริสุทธิ์ผุดผ่อง 900 % เข้านิพพานไป
อริยโคตรชั้นที่ ๓ เรียกว่า พระอนาคามี ยิ่งบริสุทธิ์มาก
บริสุทธิ์เต็มที่ สมาธิมั่นคงแน่วแน่ แต่ปัญญายังปานกลาง เมื่อยังไม่
เป็นพระอรหันต์ในชาตินี้ ละโลกไปแล้วจะไปเกิดเป็นพรหม ไม่กลับมา
เกิดในโลกมนุษย์นี้อีกแล้ว จะไปบำเพ็ญบารมีต่อหรือไปสร้างปัญญา
ให้บริสุทธิ์เต็มที่ต่ออยู่ที่ชั้นพรหม หมดกิเลสอยู่ที่พรหมโลก แล้วเข้า
พระนิพพานไป
อริยโคตรชั้นที่ ๔ เรียกว่า พระอรหันต์ หมดกิเลสในขณะที่
เป็นมนุษย์ในชาตินี้เลย
พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามีและพระอรหันต์
เราเรียก ว่า พระอริยบุคคล หรือ พระอริยเจ้า อริยะแปลว่าเจริญ
แล้ว ที่เรียกว่าเจริญแล้ว เพราะยังไงๆ ก็ไม่ตกนรก มีแต่จะไปสวรรค์
กับนิพพานเท่านั้น เรื่องจะไปนรกนั้นเป็นไม่มี มีแต่เจริญขึ้นฝ่ายเดียว
ทีนี้มีอยู่พวกหนึ่งซึ่งเป็นพวกถ้ำกึ่ง เรียกว่า “โคตรภูบุคคล”
คือเริ่มจากปุถุโคตร เมื่อฝึกตัวเองโดยให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา
แล้วก็ปฏิบัติมรรคมีองค์ ๘ มาเรื่อยๆ ศีลอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง สมาธิ
ก็ปานกลาง ปัญญา ก็ปานกลาง ปราบกิเลสไปได้ครึ่งหนึ่งแล้วจะเรียก
พระภาวนาวิริยคุณ 54
(เผด็จ ทั ต ต ชีโว)