การภาวนาและนิมิตในฐานที่ ๗ ง่าย...แต่..ลึก!!! หน้า 38
หน้าที่ 38 / 272

สรุปเนื้อหา

บทเรียนนี้เน้นการนำเสนอวิธีการภาวนาและนึกนิมิตโดยใช้ภาพในใจที่คุ้นเคย เช่น ผลไม้และของขาย เพื่อช่วยให้จิตใจตั้งมั่นในกลางดวงใสที่ฐานที่ ๗ โดยไม่มีความตึงเครียดและไม่ต้องเพ่งแรง ที่สำคัญคือการนึกภาพควรทำให้รู้สึกสบาย หากใครไม่ถนัดนึกก็สามารถละทิ้งวิธีนี้ไปได้ นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำการใช้สิ่งที่คุ้นเคยเป็นประโยชน์ในขณะนั่งภาวนาเพื่อให้การทำสมาธิเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น.

หัวข้อประเด็น

-การภาวนา
-นิมิต
-เทคนิคการทำสมาธิ
-ฐานที่ ๗
-ความสบายในขณะนั่งภาวนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ไม่มีตำหนิ ไม่มีขีดข่วนคล้ายขนแมว โตเท่ากับแก้วตาเป็นบริกรรม นิมิต แล้วท่านก็สอนให้เอาใจมาหยุดนิ่ง ๆ ที่กลางดวงใส ๆ ตรง ตำแหน่งที่เรามั่นใจว่าเป็นฐานที่ ๗ แล้วก็ประกอบบริกรรมภาวนา สัมมา อะระหัง ทุกครั้งที่ภาวนาจะต้องไม่ลืมนึกถึงดวงใส ๆ ประคอง ใจกันไปอย่างนี้ นี่คือหลักวิชชาที่ท่านสอนเอาไว้ ทีนี้บางท่านทำอย่างนี้แล้วมันตึง มันเกร็ง แล้วนึกไม่ออก จะนึกถึงสิ่งที่เราคุ้นเคยเป็นบริกรรมนิมิตก็ได้ ขายทุเรียนก็นึกทุเรียน ขายเงาะ ขายมังคุด ขายลองกอง มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ เราก็นึกถึงสิ่งนั้น ขายปาท่องโก๋ก็นึกปาท่องโก๋ก็ได้ ขายซาลาเปาก็ นึกได้ ไส้หวาน ไส้เค็ม ไส้เค็มมันก็ย่น ๆ หน่อย มีบางคนนึกถึงซาลาเปาเพราะขายซาลาเปา มองไปมองมา กลายเป็นซาลาเปาแก้วใสแจ่มปรากฏอยู่ในกลางกายฐานที่ ๗ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาขายดิบขายดีทีเดียว ให้เรามองต่อไป เดี๋ยว ชาลาเปาแก้วก็จะเป็นดวงปฐมมรรค นี่เราทำอย่างนี้ก็ได้นะ ถ้าขาย เพชร ขายพลอย ขายไข่มุก เราก็นึกเอา คุ้นเคยอย่างไหนเราก็เอา อย่างนั้น นึกอย่างสบาย ๆ ดูไปเรื่อย ๆ จะประคองใจด้วย สัมมา อะระหัง ก็ได้ หรือจะไม่ภาวนาก็ไม่เป็นไร ไม่ชอบนึกนิมิต-ก็ไม่ต้องนึก การนึกนิมิตนี้เหมาะสำหรับผู้ที่นึกเป็น คือ นึกแล้ว ไม่ตึง ไม่เกร็ง นึกแล้วสบาย ก็ให้นึกนิมิตไป แต่ผู้ที่ นึกแล้วไม่สบาย มันตึง อดที่จะไปลุ้น ไปเร่ง ไปเพ่ง !!! |
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More