ข้อความต้นฉบับในหน้า
ฟุ้งน้อย ถ้าเราหัดตัดใจ ไม่อาลัยอาวรณ์ หรือหัดหักใจให้ได้ มันก็
ฟุ้งน้อย ถ้าหัดตัดใจไม่ได้มันก็ฟุ้งมาก เราก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ธรรมดา
จะฟุ้งเป็นภาพเป็นเสียงหรือมาทั้งภาพทั้งเสียงก็ช่างมัน
ช่างมัน ๒ คำนี้ แล้วก็นั่งเฉย ๆ ไปเรื่อย ๆ เมื่อเราทำอย่างนี้ไป
เรื่อย ๆ ไม่ช้ามันจะฟุ้งในระดับที่เราไม่รำคาญ ทั้ง ๆ ที่ฟังเท่าเดิม
แต่เราไม่รำคาญ นั่นเราเป็นต่อแล้ว และพอเรานั่งในครั้งถัด ๆ
มา รู้สึกว่า เออ มันเริ่มโล่ง เริ่มโปร่ง เริ่มสบาย เริ่มรู้สึกตัวขยาย
เริ่มรู้สึกตัวหาย หรือเวลามันหมดเร็วเหลือเกิน นั่นก็เป็นมิเตอร์วัด
ว่า ใจเราเริ่มรวมเป็นสมาธิแล้ว แต่เขาเรียกว่า “ขณิกสมาธิ” ยังเป็น
สมาธิอ่อน ๆ อยู่ เราก็ฝึกไปเรื่อย ๆ
ถ้าเรารักที่จะเข้าถึงพระธรรมกาย อยากเข้าถึงความสุขที่แท้
จริง เราก็จะขยันฝึก ฝึกไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวสักวันหนึ่งเราก็จะสมหวัง
แต่อย่าคิดเลยเถิดวิตกกังวลว่า โอ้ กว่าจะเห็นคงตายมั้ง ก่อน
ตายมั้ง หรือชาติหน้ามั้ง อย่าเลยเถิดไปขนาดนั้นนะลูกนะ มันไม่ถึง
ขนาดนั้นหรอก มันจะเร็ว ๆ นี้
จุดที่จะถึงมันใช้เวลาแค่วินาทีเท่านั้น ถ้าเวลาใจหยุดนิ่ง ๆ ได้
ถ้าเราตั้งใจทําความเพียรกันอย่างจริงจัง และหมั่นปรับปรุงให้ถูก
น
y
หลักวิชชา วินาทีเพชรวินาทีพลอยนั้นจะต้องมาถึงเราอย่างแน่นอน
อาจจะคืนนี้ก็ได้ อาจจะพรุ่งนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้นให้นั่งให้สบายใจ
ให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น ต้องนั่งอย่างนี้นะลูกนะ หมั่นทบทวนที่
แนะนำไป
!!! | mu