การรอคอยและการยอมรับในชีวิต ง่าย...แต่..ลึก!!! หน้า 177
หน้าที่ 177 / 272

สรุปเนื้อหา

ในชีวิต เราควรรอคอยและยอมรับว่าสถานการณ์บางอย่างต้องการเวลา ไม่ต้องกลุ้มเมื่อเราไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงทันที ให้ใจสงบและรอคอยช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะนำไปสู่การรับรู้และเข้าใจความจริง ห้ามเทียบเวลาที่ผ่านมาและเวลาที่เหลือ เพราะทุกคนมีเวลาเท่ากันในการทำสิ่งต่าง ๆ นี่คือแนวทางในการใช้ชีวิตอย่างมีความหวังและสงบใจ แสงทองจะปรากฏขึ้นเมื่อถึงเวลา การมีความสุขในปัจจุบันนั้นสำคัญยิ่งกว่าการเฝ้ารออนาคต

หัวข้อประเด็น

-การรอคอย
-การยอมรับ
-การมีสติ
-ชีวิตที่สงบ
-การใช้ชีวิตในปัจจุบัน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ไม่โผล่มาให้เราเห็นเลย อย่าลืมว่านี่ประเทศไทยไม่ใช่นอร์เวย์ เขามี พระอาทิตย์เที่ยงคืน เราก็ต้องยอมรับว่าคือเที่ยงคืนมันต้องมืด ที่ ๑ ก็มืด ที่ ๒ ก็มืด ตี ๓ ที่ ๔ ก็ยังมืดอีก ๑ ๒ ๓ ถามว่า เมื่อเราไม่เห็นดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงคืน ตี ๑ ที่ ๒ ที่ ๑ เราควรกลุ้มไหม ถามตัวเองนะลูกนะ เราควรกลุ้มไหม หรือเราควร ทำใจเย็น ๆ นิ่ง ๆ สงบ ๆ รอเวลาให้ถึง 5 โมงเช้า ยอมรับสภาพว่า ที่ ๑ มันต้องมืด ที่ ๒ มันก็มืด ตี ๓ ตี ๔ มันมืดทั้งนั้น ยอมรับ ตรงนี้ก่อน แล้วใจจะสบายไปกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ แล้วก็ทำใจเย็น ๆ ไม่เห็นภาพก็ไม่เป็นไร นิ่งเฉย ๆ พอถึงเวลา 5 โมงเช้า จะเห็นเอง แสงเงินแสงทองก็เรื่องรอง ขึ้นมาเป็นรางวัลสำหรับผู้ที่ใจเย็นพอ รอคอยดวงตะวันที่ขึ้นมาจาก ขอบฟ้าได้ จะได้ยินเสียงนกเสียงกาแซ่ซ้องสรรเสริญว่า เออ คนใจเย็น บัดนี้เขาสมหวังแล้ว เวลา 5 โมงเช้า เขาได้เห็นแสงเงินแสงทองจาก ขอบฟ้า ยอมรับนะลูกนะว่า เมื่อยังไม่ถึงเวลา มันก็คือยังไม่ถึงเวลา แต่อย่าเอาไปเทียบกับเวลาที่ผ่านมา และเวลาที่เหลืออยู่อีกไม่มาก เพราะเวลาที่ผ่านมาเราทำไม่ถูกวิธี เวลาที่เหลืออยู่นี้มันเท่ากันทุกคน คือ เรามีเวลาของชีวิตอยู่ เพียงวินาทีเดียวเท่ากันทุกคนที่เป็นเวลาของเรา พรุ่งนี้ยังไม่ใช่ มะรืน นี้ก็ไม่ใช่ เพราะเราจะมีเวลาที่มีชีวิตอยู่ถึงพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้หรือ เปล่าไม่ทราบ เวลาในอนาคตไม่ต้องพูดถึง เวลาผ่านไปในอดีตก็ดีด มันไปซะ ๑๗๗ | วิธีแก้กดลูกนัยน์ตา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More