การเห็นทางใจและการพัฒนาองค์ความรู้ ง่าย...แต่..ลึก!!! หน้า 134
หน้าที่ 134 / 272

สรุปเนื้อหา

การเห็นทางใจคือการพัฒนาความสามารถในการรับรู้และเข้าใจภายในผ่านการฝึกนั่งสมาธิและการสังเกตตัวเอง เพื่อให้สามารถเห็นภาพภายในชัดเจนขึ้น ตามกระบวนการของการเปิดรับในใจต่อตนเองและชีวิต. จากที่เราเริ่มต้นในการนั่งสมาธิ การสังเกตความถูกหลักวิชชาช่วยให้เราปรับปรุงและพัฒนาจิตใจได้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถเข้าใจและมองเห็นทางใจได้ชัดเจนขึ้น โดยบางคนที่มีการสะสมบุญและฝึกฝนตลอดชีวิตอาจสามารถเห็นภาพในใจได้ชัดเจนราวกับการมองด้วยตาเนื้อแม้ในระดับที่ต่างกัน ดั่งการรอดูความสว่างในยามเช้า ให้เห็นชัดในสายตาภายใน.

หัวข้อประเด็น

- การนั่งสมาธิ
- การเห็นทางใจ
- การพัฒนาจิตใจ
- การสังเกตตัวเอง
- ความชัดเจนในการรับรู้

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สมาเสมอ คือหาให้ได้ทุกวัน ทุกอิริยาบถ นั่ง นอน ยืน เดิน หรือว่าถ้ามันมากไปก็เอาแค่สองเวลา คือ หลับตากับลืมตา หรือ หายใจเข้าหายใจออกก็ได้ สังเกต คือเวลาเลิกนั่งสมาธิแล้วให้หมั่นสังเกตว่า เราทำถูกหลัก วิชชาไหม ถ้าไม่ถูกก็ปรับปรุงแก้ไข ถ้าถูกก็ทำให้เจริญขึ้น คล่องขึ้น ให้ ชานาญขึ้น สักวันหนึ่งก็จะเป็นวันสว่างของเรานะลูกนะ การเห็นทางใจและการเห็นด้วยตาเนื้อ การเห็นทางใจจะต่างจากการเห็นด้วยตาเนื้อ การเห็นด้วย ตาเนื้อสำหรับคนที่มีดวงตาปกติ พอเราลืมตาเราจะเห็นได้ทันที และของไกล ๆ มักจะเห็นชัดน้อยกว่าของใกล้ ๆ แต่การเห็นภาพ ทางใจนั้นจะค่อย ๆ เห็น คือค่อย ๆ ชัด เพราะเรายังมีความมืดใน ใจอยู่เหมือนความมืดในยามราตรี ของอะไรอยู่ในที่มืดก็มองไม่ค่อย เห็นจนกว่าเราจะทำนิ่ง ๆ ให้สายตาคุ้นกับความมืดก็พอจะคาดคะเน ว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็ยังเห็นได้ไม่ชัดเจนจนกว่าจะฟ้าสาง ๆ นั่นแหละ จึงจะค่อย ๆ เห็น ภาพภายในจะคล้าย ๆ อย่างนั้น จะมีมนุษย์พิเศษบางคนที่เขาสั่งสมบุญมามาก ฝึกมาข้ามชาติ พอหลับตาเขาก็นึกภาพได้ชัดราวกับการเห็นภาพด้วยตาเนื้อถึง 50 เปอร์เซ็นต์ก็มี ๗๐, ๔๐, ๙๐ เปอร์เซ็นต์ก็มี แต่ที่ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ยังไม่เคยเจอ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งตรงนี้แหละ มันทำให้เราไม่คุ้น และมักจะขัดใจเราเสมอ เรา มักจะฮึดฮัด เวลาเราอยากจะเห็นภาพภายในก็พยายามไปเค้นภาพ ----... || ๑๓๔
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More