ข้อความต้นฉบับในหน้า
ได้ลิ้มรสเหมือนกัน เข้าใจว่าการได้รับประทานหรือได้ดื่มกิน
อะไรที่หลากรสหลากลีลาต่าง ๆ เหล่านั้น รสเปรี้ยวหวานมันเค็ม
ไม่ซ้ำกันเลย เปรี้ยวอย่างเดียวก็ไม่ซ้ำเปรี้ยว หวานก็ไม่หวาน
อย่างนั้น เป็นต้น หรือได้ดื่มเครื่องดองของเมาไม่ซ้ำแบบว่านั่นก็คือ
ความสุข เราถูกหลอมถูกสอนให้เชื่ออย่างนั้น
สิ่งของว่านั่นแหละ
หรือการถูกต้องสัมผัส ตั้งแต่สัมผัสคน สัตว์ สิ่งของว่า
คือความสุข หรือความฟุ้งฝันคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอย่างนั้น
ในชีวิตประจำวันโลกสอนเราหล่อหลอมเราอย่างนี้เราจึง
เข้าใจไปอย่างนั้น แล้วก็แสวงหากันไปจนหมดเวลาในโลกซึ่งมีอยู่
อย่างจำกัด หมดไปชาติหนึ่งฟรี ๆ แถมขาดทุนชีวิตเสียอีก เพราะชีวิตมี
กฎแห่งกรรมคอยควบคุมอยู่ มันก็พัดพาเราไปท่องเที่ยวในสังสารวัฏ
แต่เที่ยวอย่างนี้มันไม่ได้เที่ยวเหมือนไปเที่ยวทัวร์ต่างประเทศนะ
มันไปท่องเที่ยวในอบายซึ่งเป็นความทุกข์ทรมาน
ความสุขแท้จริงเป็นเช่นไร
เราไม่รู้จักหรอก ความสุขที่แท้จริงเป็นอย่างไร จนกว่าจะมา
เจอผู้รู้ หรือคำสอนของผู้รู้ที่ท่านได้ผ่านชีวิตมาทุกระดับแล้ว จาก
สูงมาต่ำ จากต่ำไปสูง เคยเป็นตั้งแต่พระเจ้าจักรพรรดิ พระราชา
มหากษัตริย์ เศรษฐี มหาเศรษฐี ถึงยาจก วณิพก ผ่านนรกสวรรค์
ผ่านมาหมดแล้ว แล้วท่านก็แสวงหาทางพ้นทุกข์จนไปพบความสุข
ที่แท้จริง แล้วสรุปได้ว่า
นตฺถิ สนฺติปร์ สุข์ สุขอื่นนอกจากใจหยุดนิ่งไม่มี
๕๓ | ชีวิตที่ถูกหลอก