ข้อความต้นฉบับในหน้า
ครูธรรม 8 เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรงบัญญัติหรือไม่ (2) 111
ก. บทลงโทษสำหรับการทำผิดครูธรรม
เนื่องจากว่าในเนื้อหาของครูธรรมข้อที่ 5 ภาษาบาลีใช้คำว่า "ครูมฺ" ภิกขูนี้ ล่วงละเมิดครูธรรมแล้วต้องประพฤมนับตั้งแต่เดือนในสงฆ์ 2 ฝ่าย มีความเป็นไปได้อย่างมาก เมื่อ่านแปลคำคัีญี่ปุ่นเห็นคำว่า "ครูมฺ" นี้ ก็มีกว่าหมายเอา "ครูธรรม 8" แต่จากออกรถถาของอังคุตตรนิยกที่กล่าวไว้อย่างต้นได้แสดงความหมายของคำว่า ครูมฺ ไว้อย่างชัดเจนว่า หมายถึง ธรรมหนัก หรือ กรรมนหนัก ซึ่งก็คือการทำผิดสมัภสนั่นเอง มีได้หมายถึง ครูธรรม 8 แต่ อย่างใด นอกจากนี้ในพระวินัยของนิกายนิยายต่าง ๆ ที่ปัจจุบันเหลือแต่ฉบับภาษาจีน เช่น พระวินัยของนิกายสรวาสติ-วาท นิยามมหาสังมิละ นิยกรมคูติ ก็ยะบว่าเป็นสงฆมฺเสส กล่าวคือ หากทำธรรมหนัก (สงฆาทิเสส) จึงต้องประพฤิมานัติถึงเดือนสำหรับภิกขุ และ 6 วัน สำหรับภิกษุ
สำหรับในกรณีเกี่ยวกับเรื่องการกระทำผิดครูธรรม 8 ว่า มีบทลงโทษเป็นส่งมารธีหรือปาจิตตีย์ และหากว่าบทลงโทษเป็นส่งมารธีหรือไม่ต้องก็สงสัยว่าไม่อธิฏฐานหรือไม่ ในประเด็นนี้ จากการศึกษาข้อมูลในคัมภีร์บาลีและอรรถกถา ทำให้พบความกระจ่างในระดับหนึ่งว่า ในมัยเอก ฯ ไม่มีภาวะบัญญัติ เจ้าทำผิดครูธรรมแล้วมีบทลงโทษอย่างไร มีเพียงแต่บทบัญญัติการลงโทษในกรณีของการทำผิดครูธรรมหนัก หรือสงฆาทิเสส ซึ่งเมื่อไม่มีข้อกำหนดว่าสำหรับทำผิดครูธรรมข้อใดข้อหนึ่งแล้วจะต้องอาบัติส่งมารธีหรือปาจิตตีย์ ก็หมดปัญหาที่จะกล่าวถึงกันว่า ยุติธรรม หรือไม่ยุติธรรม
แต่ในเรื่องของธรรมหนาหนักและสงฆาทิเสสที่ยังไม่มีบัญญัติที่ผิดแล้วจะมีการบัญญัติของสงฆาทิเสสได้อย่างไร และทำไมต้องมานัด 15 วันนั้น ในตอบในประเด็นนี้และประเด็นข้อ ข และ ค ที่จะกล่าวต่อไป ในเบื้องต้นผู้อ่านสนิทฐานว่า มีความเกี่ยวข้องกับทิฏฐิยึดหลักของศิลาธในช่วงแรกไปก่อน เพื่อเป็นการยืนยันสมมติฐานนี้ จึงต้องพิจารณาถึงประเด็นความก่อนหลังของการบัญญัติศิลาธและการเกิดขึ้นของิทธิ์