ข้อความต้นฉบับในหน้า
ครุธรรม 8 เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้ามอบบัญญัติหรือไม่ (2) 125
ไม่ว่าจะเกิดภิญญูสิจะเป็นปีที่ 15 หรือ ปีที่ 21-26 หลังพุทธศักราช การตั้งจุ
ครุธรรมนันหรือการกำเนิดภิญญูสิ ควรจะเกิดหลังจากที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ
สังฆามาสงของภิญญูสิว์แล้ว เพราะศีลข้อ 1 ของภิญญูสิ ได้ถูกบัญญัติ เมื่อพระพุทธเจ้าทรง
ตรัสรู้แล้ว ประมาณ 12 ปี หากภิญญูสิจะเกิดขึ้นเมื่อปีที่ 15 หลังพุทธศักราช ซึ่งในระยะเวลา
3 ปีพระวินัยของภิญญูสิจะมีในระดับหนึ่งแล้วเพื่อให้ภิญญูสิได้ศึกษา ดังที่พระพุทธเจ้า
ทรงให้หลักการในการดำรงชีวิตของภิญญูสิไว้ว่า ให้ภิญญูสิถือวาตามพระวินัยของภิญญูสิ
สำหรับพระวินัยของภิญญูสิและข้อบังคับพระวินัยของภิญญูสินี้บัญญัติที่วัดพระ
ตันทันั้น หากพิจารณาถึงอัตราส่วนที่บัญญัติวัดพระเตะตวัดจำนวนข้อพระวินัยของ
ภิญญูสิ่นจำนวนนี้ย่อกว่าของภิญญูสิ จึงถือความได้ว่า ศิลภิญญูสิ่กเกิดหลังศิลภิญญูสิ่จะหลังถึง 3-6 ปี และการกำเนิดภิญญูสิควรขึ้นในปีที่ 15 หลังพุทธศักราช หลังจาก
ที่พระพุทธเจ้าเสด็จกลับกรุงกุสินทร์ครั้งในพระราชทาน 15
ข้อบังคับครุธรรมข้อที่ 5 นี้ เป็นไปได้ว่าพระพุทธเจ้าทรงพิจารณาสงมาไสส
ของภิญญูสิ่ที่อยู่ก่อน แล้วจังบัญญัติครุธรรมให้ภิญญูสิ่ และเป็นไปได้ว่า ช่วงเวลาที่
กำเนิดภิญญูสิ่ก็มีได้ประกพฤติผิดพลาด จึงไม่มีฤกษ์และบทลงโทษ
ใด ๆ ยังไม่มีการบัญญัติสาขาบทสงมาไสสเฉพาะภิญญูสิ่ จึงใช้เพียงคำว่า ทำกรรม
หนัก หรืออรรถหนัก (ครุธรรม) มาตั้งเป็นฐานวัดไว้ก่อนเพื่อให้ภิญญูสิ่รายใน
อนาคตว่า หากกระทำผิดที่หน้างจะมีบทลงโทษ เพราะถ้าผิดเบาก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
นัก จึงไม่ได้บัญญัติไว้ในครุธรรม ส่วนถ้าผิดหนักมากถึงขั้นอัปริก ก็หมดสภาพ
นักวชในพระพุทธศาสนาไป แต่สำหรับความผิดหนัก ดูเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องกำหนด
พระพุทธเจ้าจำแนกในเบื้องต้นว่า ถ้าผิดหนัก จะต้องประพฤติกรรมเป็นเวลาถึง
เกิน ซึ่งคำว่า “มานะ” เป็นคำที่ใช้สำหรับการลงโทษภิญญูสิ่ที่ผิดสมาธิแล้ว ดังนี้ จึงมี
ความเป็นไปได้มากกว่า คุรธรรมข้อที่ 5 นี้ได้พิจารณาถากบลงโทษของภิญญูสิ่ส์โดย
ให้มีบทลงโทษหนักกว่าเป็น 2 เท่า คือ 6 รายสำหรับภิญญูสิ่ ส่วน 15 รายสำหรับภิญญูสิ่
ซึ่งกระทำหลังจากโปรดาสตามจำนวนวันที่ปกติโดย