บทบาทของพระอุปัชฌาย์ในพระศาสนา : หน้า 31/83

ละเอียดยังถึง 3 ครั้ง ดังปัจฉิมร้อยข้อที่ 63,66,72 และ 64,67,73 ซึ่งอนุมานได้ว่า การดูแลกุษญันกลุ่มใหญในสงัยั้นเพื่อให้ความเข้าใจตรงกันหรือปฏิบัติตามมาตรฐานเดียวกันไม่ใช่เรื่องง่าย รวมไปถึงกุษญันบางรูปที่คุณสมบัติไม่ครบถ้วนในการเป็นพระอุปัชฌาย์ แต่ได้ทำการไม่เหมาะสม หรือรับปากว่าจะบวชให้บางสำนักนานแล้ว แต่ไม่บวชในกฎี่ดำ ๆ จะสังเกตว่าความรับผิดชอบของก็ญญันแต่ละรูปนั้นมีระดับที่ไม่เท่ากัน จึงเกิดให้มีฤฎษณ์ออกมาขนานทุก ๆ พฤติกรรมของกุษญันที่ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานเหล่านั้น นอกจากน้ั้น จะสังเกตว่า พระพุทธเจ้าจะให้ความสำคัญกับพระอุปัชฌาย์มาก ต้องเป็นผู้ที่มีอายุพรรษา 12 ปีขึ้นไป ได้รับการสมมติจากสงฆ์ และให้ทำหน้าที่ดูแลแลกุษญี่ผูปฏิฌาณในพระสโมสรใหม่อีก 2 ปี ดังปัจฉิมร้อยข้อ 68,69,74,75 นอกจากน้ังร่วมไปถึงความเคารพใน การคัดเลือกสตรีเข้ามาบวชในพระศาสนา โดยต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครอง ต้องมีความประพฤติดี ศึกษาสิกษาเมาาแล้ว 2 ปี และได้รับการยอมรับจากสงฆ์นสมงสมมติแล้วจึงจะบวชได้ บวชแล้วจึงต้องติดตามทำหน้าที่อุปัชฌาย์ผูปฏิฌาณให้ภิกษ์ 2 ปี จะเห็นได้ว่า มิโม้แต่ครูธรรม 8 เองเท่านั้นที่เป็นด่านสำคัญ ที่ผู้ฝังใจบวชต้องก้าวข้ามให้ได้ แต่มีข้อบัญญัติปลายก็ยิ่งกว่า 10 ข้อที่สร้างความท้าทายให้กับสตรีผู้อยู่ในบวชให้ได้ แต่มีข้อบัญญัติปลายก็ยิ่งกว่า 10 ข้อที่สร้างความท้าทายให้กับสตรีผู้อยู่ในบวชให้ได้ แต่มีข้อบัญญัติปลายก็ยิ่งกว่า 10 ข้อที่สร้างความท้าทายให้กับสตรีผู้อยู่ในบวชให้ได้ แต่มีข้อบัญญัติปลายก็ยิ่งกว่า 10 ข้อที่สร้างความท้าทายให้กับสตรีผู้อยู่ในบวชให้ได้ แต่มีข้อบัญญัติปลายก็ยิ่งกว่า 10 ข้อที่สร้างความท้าทายให้กับสตรีผู้อยู่ในบวชให้ได้ แต่มีข้อบัญญัติปลายก็ยิ่งกว่า 10 ข้อที่สร้างความท้าทายให้กับสตรีผู้อยู่ในบวชให้ได้ แต่มีข้อบัญญัติปลายก็ยิ่งกว่า 10 ข้อที่สร้างความท้าทายให้กับสตรีผู้อยู่ในบวชให้ได้ แต่มีข้อบัญญัติปลายก็ยิ่งกว่า 10 ข้อที่สร้างความท้าทายให้กับสตรีผู้อยู่ในบวชให้ได้