ข้อความต้นฉบับในหน้า
ครูธรรม 8 เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้ามอบบัญญัติหรือไม่ (2) 171
พุทธกาล และเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติจริง
เมื่อย้อนกลับมาประเด็นที่ว่าครูธรรมานำซึ่งความไม่สมอภาคแก่คณะสงฆ์ใน
พระพุทธศาสนาหรือไม่ ก็จำ่ต้องย้อนกลับไปตีความเรื่องความไม่สมอภาคและ
สาเหตุ คำว่า สมอภาค ไม่ได้หมายถึงเท่ากัน เฉพาะการเรียกร้องของสิทธิสตรีหลาย
กลุ่มที่มีหลายแนวคิด ในสมัยแรก ฯ นักสิทธิสตรีเรียกร้องเพื่อความเท่าเทียมกับชาย
สมยุคต่อมามีเสถียรภาพ แต่ดูคลังสิทธิสตรีนิยมภลับเรียกร้องสิ่งที่เหมาะกับผู้หญิง เช่น ใน
เมื่อหญิงสามารถอิ่มด้วยข้าวเพียง 1 จาน หญิงไม่จำเป็นต้องเรียกร้องกินข้าว 2 จาน
เหมือนชาย หญิงใช้เวลานานในห้องน้ำมากกว่าชาย จำนวนห้องน้ำหญิงไม่ควรมากกว่าชาย
แต่ควรมากกว่าชาย เป็นตัน สำรองมองของนักสิทธิสตรีนิยม ในยุคแรก อาจมองได้ว่า
ครูธรรมานำซึ่งความไม่สมอภาค เพราะทุกอย่างต้องทำมากกว่ากว่าสิ่งซึ่งเป็นเพศชาย
ถึง 2 เท่า แต่สำรองมองของนักสิทธิสตรีนิยมหรือผู้เรียกร้องสิทธิสตรีบางกลุ่ม อาจมอง
ว่าเป็นการปรับให้เหมาะกับเพศภาวะนักบวชชหญิง อย่างไรก็ตาม การเอาถุงฐิติทาง
สังคมที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปเป็นตัวตั้งสำคัญของพระพุทธ
ศาสนา ผู้เขียนเห็นว่าไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ไม่ควรที่จะนำมาเปรียบ มาทแลย มาชีวัต เพราะ
ถือได้ว่าอยู่คณะบริบท แต่หากเอาถุงฐิติของสังคมนักบวชด้วยกันมาชีวัด มาประย
มาเทียบ น่าจะสมเหตุสมผลมากกว่า
ในกรณีของครูธรรม 8 ปัจจุบันสามารถทำได้หรือไม่ คำถามนี้อาจจะขึ้นอยู่
กับพื้นที่บางประเทศมหา คณะสงฆ์อาจเข่าจำใยก็สามารถทำได้ ยกตัวอย่าง เช่น การ
บิณฑบาตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต๋ทำได้ แต่ในประเทศจีนหรือประเทศตะวัน-
ตกไม่เป็นที่นิยมและเป็นเรื่องปกติของประเทศเหล่านั้น นอกจากนี่ยังขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติ
หากผู้ปฏิบัติระลึกถึงครูธรรม 8 เป็นเหมือนดังเพงระหว่างความเป็นครูศัลและ
บรรพชิต และได้พิจารณาตนเองด้วยการน้อมรับครูธรรม ซึ่งก็เป็นเหมือนการก้าวข้าม