การพิจารณาและฝึกจิตเพื่อหลุดพ้นจากความทุกข์ GL 101 จักรวาลวิทยา หน้า 28
หน้าที่ 28 / 184

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงแนวทางในการพิจารณาเรื่องความเสื่อมของโลก และการฝึกจิตตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อหลุดพ้นจากทุกข์. นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติธรรม และการใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด. พระพุทธเจ้าทรงเน้นให้แก้ไขตนเองในเรื่องที่ทำให้พ้นทุกข์ และพิจารณาความจริงเพื่อไม่ให้หลงมัวเมา เราควรมุ่งสู่การปฏิบัติธรรมเพื่อความดับทุกข์และบรรลุพระนิพพาน. ข้อความหลักปิดท้ายด้วยการเตือนใจว่าสิ่งที่ไม่สำคัญไม่ควรถามมากเกินไป เพราะการตอบคำถามที่ไร้ประโยชน์จะทำให้ไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บทางจิตใจได้.

หัวข้อประเด็น

- ความสำคัญของการฝึกจิต
- แนวทางการพิจารณาความเสื่อม
- หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
- การเข้าถึงพระนิพพาน
- การปฏิบัติธรรมเพื่อหลุดพ้นจากทุกข์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

แต่เรื่องที่เราควรคิด คือ เรื่องทำอย่างไรให้หลุดพ้นจากโลกใบนี้ไปได้ หรือคิดเรื่องความเสื่อม การเกิดขึ้นของโลก เพื่อเป็นคติสอนตัว ไม่ให้หลงมัวเมาอยู่ในโลก จะได้เร่งทำความดี หนีจากโลกนี้ไป เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าพิจารณาใคร่ครวญ หรือเราควรเร่งจะฝึกจิต ตั้งใจปฏิบัติธรรมให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อจะ ได้ไปตรวจสอบ พิสูจน์ความจริง หลังจากที่เราดับกิเลสหมดสิ้นแล้ว 1.3.5 จุดมุ่งหมายของการศึกษาจักรวาลวิทยา พระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคำสอนที่มุ่งเน้นให้ทุกคนได้สร้างความดี แก้ไข ตนเองในเรื่องที่ทำให้พ้นทุกข์ก่อน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของชีวิต คือ พระนิพพาน ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด อยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไป เพราะเรามีเวลาในโลกนี้จำกัด เรื่องจักรวาลวิทยา พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้ทรงสอนอย่างละเอียด แต่พระองค์ทรงสอนแบบ ตัดตอน พอให้เห็นภาพการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปของคน สัตว์ สิ่งของ จะได้เบื่อหน่ายคลาย กำหนัด เร่งปฏิบัติธรรมเท่านั้น ดังเรื่องย่อใน จูฬมาลุงกยโอวาทสูตร ในครั้งนั้น พระมาลุงกยบุตรได้บวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ท่านอยากจะทราบคำตอบ เรื่อง โลกเที่ยง โลกไม่เที่ยง โลกนี้ โลกหน้า พระมาลุงกยบุตรคิดว่า พระพุทธเจ้าไม่ทรงตอบปัญหาเรื่อง ความเห็น 10 ประการ เช่น โลกเที่ยงหรือไม่เที่ยง โลกมีที่สุดหรือไม่มีที่สุด เป็นต้น จึงเข้าไปเฝ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อทูลขอให้พระองค์ทรงตอบปัญหานี้ให้ได้ ถ้าพระองค์ทรงทราบก็ขอให้ตอบให้ หายข้องใจ ถ้าพระองค์ไม่ทรงทราบคำตอบ ก็ขอให้ตรัสตรงๆ ว่าไม่ทราบ แต่ถ้าพระองค์ไม่ตอบอะไร ท่านก็จะสึก ในครั้งนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถามพระมาลุงกยบุตรว่า เราเคยชวน ให้เธอมาบวชเพื่อจะ ตอบปัญหานี้หรือ พระมาลุงกยบุตรตอบว่า ไม่เคย พระพุทธเจ้าตรัสต่อไปว่า ผู้ใด กล่าวว่าเราจะสึก ถ้า พระพุทธเจ้าไม่ตอบปัญหาเหล่านี้ ผู้นั้นคงจะตายเปล่า เพราะเราจะไม่ตอบปัญหานั้น เปรียบเสมือนคนถูก ยิงด้วยธนูอาบยาพิษ ญาติพี่น้องไปตามหมอมาช่วยรักษา แต่ถ้าคนไข้ไม่ยอมให้ หมอผ่าตัดเอาลูกศรออก จนกว่าจะมีใครบอกว่า ใครเป็นผู้ยิง มีชื่ออย่างไร สูงหรือต่ำ ดำหรือขาว อยู่ที่ไหน ธนูที่ใช้ยิงทำด้วยอะไร เป็นต้น คนไข้นี้ก็คงจะตายเปล่า เพราะมัวแต่ถามถึงสิ่งที่ไม่ใช่ประโยชน์ ซึ่งประโยชน์ เบื้องหน้าคือการ รักษาอาการบาดเจ็บ และสุดท้ายพระพุทธองค์ทรงสรุปว่า พระองค์จะทรงตอบปัญหา ความเห็นที่เป็นไป เพื่อความดับทุกข์ เพราะข้อนั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ เป็นไปเพื่อให้เบื่อ หน่ายคลายความกำหนัด เพื่อความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน 1 จูฬมาลุงกยโอวาทสูตร, มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์, มก. เล่ม 20 ข้อ 147-152 หน้า 298-305. 18 DOU บ ท ที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเ นเรื่ อ ง จั ก ร ว า ล วิ ท ย า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More