การแตกทำลายของจักรวาล GL 101 จักรวาลวิทยา หน้า 134
หน้าที่ 134 / 184

สรุปเนื้อหา

บทเรียนนี้จะอธิบายถึงการเสื่อมสลายและการแตกทำลายของจักรวาล โดยเน้นที่สาเหตุหลัก 3 ประการ ได้แก่ ไฟ น้ำ และลม ซึ่งมีอานุภาพที่มาจากกรรมของมนุษย์ ในขณะที่สัตว์อื่นไม่สามารถทำกรรมได้มากเท่ามนุษย์ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อโลกและสรรพสิ่ง แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมที่ dmc.tv

หัวข้อประเด็น

-การเสื่อมสลายของจักรวาล
-สาเหตุการแตกทำลาย
-ไฟ น้ำ ลม ในจักรวาล
-กรรมของมนุษย์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

บทที่ 6 การแตกทำลายของจักรวาล ความน่า ในบทเรียนต่างๆ ที่เราได้ศึกษาผ่านมานั้น ทำให้เราได้ทราบเกี่ยวกับแผนภูมิของภพภูมิต่างๆ ว่า ภพภูมิเหล่านั้นมีตำแหน่งที่ตั้งอย่างไร สภาพบรรยากาศและชีวิตของสัตว์ที่อยู่ในภพภูมิเหล่านั้นเป็นเช่นไร และในบทเรียนบทที่ 5 ที่ผ่านมา เราก็ได้ทราบว่า สิ่งต่างๆ อันได้แก่ จักรวาล โลก ดวงดาวต่างๆ มนุษย์ และสรรพสิ่งทั้งหลายกำเนิดขึ้นมาอย่างไร มีวิวัฒนาการอย่างไรบ้าง รวมทั้งอายุขัยของโลกและจักรวาลว่า มีอายุเท่าไร ในบทเรียนนี้จะได้อธิบายถึงลักษณะและกระบวนการเสื่อมสลายและแตกทำลายของจักรวาล โลก และสรรพสิ่งว่าเป็นอย่างไร 6.1 สาเหตุแห่งการแตกทำลายของจักรวาล นักศึกษาอย่าเพิ่งคิดไปไกลด้วยความเข้าใจผิดเพราะความเคยชินว่าสิ่งที่จะทำลายโลกจะเป็นอาวุธ ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่มนุษย์ใช้ห้ำหั่นกันในยุคสมัยนี้ หรืออาวุธมหาประลัยทั้งหลายที่มนุษย์แข่งขันประดิษฐ์ คิดค้นกันแต่อย่างใด แต่สิ่งที่จะทำลายโลกที่น่ารื่นรมย์ในความคิดของหลายท่านนั้นมีอยู่ 3 สิ่งด้วยกัน คือ ไฟ น้ำ และลม ทั้ง 3 สิ่งนี้จะเป็นตัวทำลายโลก แต่อย่าเข้าใจนำหน้าไปก่อนว่า ไฟอะไรกันจะเผาไหม้ได้ทั้งโลก ขนาดมีผู้ลักลอบเผาบ่อน้ำมันตั้งหลายบ่อ ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุด ก็ไม่เห็นว่าจะเกิดความเสียหายมากมาย อะไรนัก และอะไรหลายๆ อย่างในโลกก็ไม่ใช่ว่าจะไหม้ไฟไปเสียทั้งหมด และเช่นเดียวกัน อย่าเพิ่งเข้าใจว่า น้ำและลมจะทำลายโลกไม่ได้ เพราะคุ้นเคยกับภาพ หรือข่าวน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ต่างๆ พายุ ถล่มในหลายภูมิภาค ซึ่งก็ไม่เห็นจะสร้างความเสียหายมากมายแต่อย่างใด ที่กล่าวเช่นนั้นเพราะว่า ไฟ น้ำ และลม ที่สามารถทำลายโลกได้นี้ ไม่ใช่ ไฟ น้ำ และลมอย่างที่ เราเห็นหรือรู้จักกัน แต่เป็นไฟ น้ำ และลมประลัยกัลป์ที่มีอานุภาพในการทำลายมหาศาล เพราะเกิดด้วย แรงกรรมของสัตวโลก ซึ่งถ้าจะกล่าวตรงๆ แล้ว สัตวโลกที่ว่านี้ก็คือมนุษย์นั่นเอง เพราะว่าสัตว์อื่น ไม่สามารถจะทำกรรมอะไรได้มากมายเท่ามนุษย์ ส่วนมากล้วนกำลังเสวยวิบาก คือผลกรรมที่ตนเคยทำ เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์ พวกเทวดา และพรหมในชั้นต่างๆ ก็เสวยผลบุญอยู่ และปกติก็มีจิตใจที่ดีงามอยู่แล้ว ถึงได้ไปเกิดตรงนั้นได้ 124 DOU บ ท ที่ 6 ก า ร แ ต ก ท ล า ย ข อ ง จั ก ร ว า ล
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More