วิวัฒนาการและอายุขัยของมนุษย์ในจักรวาล GL 101 จักรวาลวิทยา หน้า 107
หน้าที่ 107 / 184

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาในบทนี้กล่าวถึงวิวัฒนาการของมนุษย์ที่เกิดขึ้นในทวีปต่างๆ โดยเริ่มจากการค้าขายแลกเปลี่ยนจนถึงการถือกำเนิดของมนุษย์ใน 4 ทวีป โดยเฉพาะชมพูทวีปที่มีการกล่าวถึงอายุขัยของมนุษย์ที่ลดลงตามกาลเวลา จาก 1,000 ปี ในอุตตรกุรุทวีป จนถึง 500 ปี ในอปรโคยานทวีป พร้อมกับการมีศีล 5 ที่ทำให้ชีวิตสงบสุข และบทบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชมพูทวีปเท่านั้น.

หัวข้อประเด็น

-วิวัฒนาการของมนุษย์
-การค้าในสมัยโบราณ
-อายุขัยในทวีปต่างๆ
-ความสงบสุขของชีวิต
-บทบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สัตว์เกิดมาสำหรับเป็นอาหารของมนุษย์ ทำให้เกิดการค้าขายแลกเปลี่ยนขึ้นในตอนเริ่มต้นมนุษย์แลกเปลี่ยน สิ่งของกับสิ่งของระหว่างกันครั้นเมื่อมีการสมมุติให้มีเงินและทองเป็นสื่อกลางจึงเริ่มมีการซื้อขายกันด้วยเงิน และทองเกิดขึ้น ที่กล่าวถึงเกี่ยวกับวิวัฒนาการต่างๆ ของมนุษย์นี้กล่าวถึงเฉพาะการเกิดบนโลกที่เราอาศัยอยู่ ซึ่งเรียกกันว่า ชมพูทวีป นอกจากโลกที่เราอยู่ ยังมีมนุษย์เกิดในโลกหรือทวีปอื่นอีก 3 ทวีป คืออุตตรกุรุทวีป ปุพพวิเทหทวีป และอปรโคยานทวีป แต่เดิมนั้น อายุขัยของมนุษย์ที่อยู่ในทุกทวีปจะยาวนานมาก ยาวเป็นอสงไขยปีดังที่กล่าวแล้ว ครั้นเมื่อกิเลสในตัวมนุษย์มากขึ้น ทำให้สิ่งแวดล้อมในโลกเลวร้ายลง ทั้งนี้ เป็นเพราะบุญที่จะมารองรับมนุษย์น้อยลง ประกอบกับเกิดจากการกระทำของมนุษย์เอง ทำให้อายุ มนุษย์สั้นลงตามลำดับ มนุษย์ในอุตตรกุรุทวีป อายุขัยจะลดลงจนถึง 1,000 ปี แล้วจะคงที่ มนุษย์ที่อยู่ในปุพพวิเทหทวีป อายุขัยลดลงจนถึง 700 ปี แล้วคงที่ และมนุษย์ที่อยู่ในอปรโคยานทวีป อายุขัยจะลดลงเหลือ 500 ปี แล้วคงที่ ส่วนมนุษย์ในชมพูทวีปจะมีอายุลดลงไปถึง 10 ปี แล้วอายุจึงเพิ่มขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งอสงไขยปี แล้วก็ลดลงมาอีก เป็นเช่นนี้เรื่อยไป ในแต่ละจักรวาลจะมีทวีป 4 ทวีปนี้เหมือนกันทุกจักรวาล และในทวีปต่างๆ ที่อยู่ในจักรวาลทั้งหลาย ก็จะมีอายุขัยเช่นนี้ มนุษย์ในทวีปทั้ง 3 คือ อุตตรกุรุทวีป ปุพพวิเทหทวีป และอปรโคยานทวีป จะมีศีล 5 เป็นปกติ ทุกคนจึงมีชีวิตที่สงบสุข แต่อย่างไรก็ตาม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะมาบังเกิดขึ้นเฉพาะในชมพู ทวีปเท่านั้น บทที่ 4 การกำเนิด จั ก ร ว า ล โ ล ก และ มนุษย์ DOU 97
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More