ข้อความต้นฉบับในหน้า
แต่ในสมัยนี้กลับถูกสมมุติว่าเป็นคำประเสริฐ ฝ่ายมนุษย์ที่ยึดติดในเมถุนธรรมแยกกันทำงานต่างๆ เพื่อหา
เลี้ยงชีพจึงถูกเรียกสมมุติว่า เวสสา คำว่า แพศย์และศูทร จึงเกิดขึ้นต่อมาภายหลัง เพราะการแยก
ประเภทของผู้ทำการงาน คือแพศย์นั้นเป็นนายหรือเจ้าของงาน แต่ศูทรกลับเป็นคนที่ทำงานให้เพื่อการ
รับค่าจ้าง
ต่อมาเมื่อมีสัตว์เกิดขึ้น โดยช้างกับม้าเกิดขึ้นก่อน เกิดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก มนุษย์ได้จับช้างและ
ม้ามาใช้สำหรับทำการเกษตร และเป็นพาหนะในการเดินทาง แต่ก่อนที่จะนำไปใช้จะต้อนสัตว์เหล่านั้น
เลือกสัตว์ที่มีลักษณะดีถวายกษัตริย์ และให้กษัตริย์แบ่งปันช้างม้าให้ประชาชนนำไปใช้
กําเนิดสัตว์
เมื่อมนุษย์มีการคัดเลือกบุคคลขึ้นมาเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เพื่อปกครองพวกของตนแล้ว ทำให้สังคม
สงบขึ้นมาอีกครั้ง เพราะแต่ละคนต่างเชื่อฟังพระเจ้าแผ่นดิน ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติระเบียบแบบแผนที่
พระเจ้าแผ่นดินทรงวางไว้ แต่อย่างไรก็ตามกิเลสในตัวมนุษย์ก็ไม่ได้น้อยลงไป แต่กลับจะมีเพิ่มขึ้นทุกที
ดังนั้นอาหารต่างๆ จึงหยาบลงไปเรื่อย จากที่เป็นข้าวสาลีมีรสอร่อยกินได้โดยไม่ต้องอาศัยกับข้าว ก็มีคุณค่า
ทางอาหารน้อยลง รสไม่โอชาเช่นเดิม แต่ก็ได้มีพืชผัก ผลไม้ต่างๆ เกิดขึ้น โดยที่ต้นไม้เหล่านี้เกิดแบบ
โอปปาติกะ เกิดมาแล้วโตเลย ไม่มีการงอกจากเมล็ดแล้วค่อยๆ โตขึ้น เมื่อมนุษย์เห็นก็นำมากินเป็นกับข้าว
เดิมก็กินสดๆ โดยไม่มีการปรุงหรือทำให้สุกอย่างในปัจจุบัน
ต่อมาเมื่อกิเลสเพิ่มมากอีก สัตว์ต่างๆ จึงเกิดขึ้น โดยสัตว์เหล่านี้เป็นผู้ที่เคยอยู่ในอบายภูมิของ
จักรวาลอื่น ซึ่งมีทั้งที่จากสัตว์นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์ดิรัจฉาน เมื่อจักรวาลที่สัตว์เหล่านี้เสวยกรรม
อยู่ถูกทำลาย ซึ่งอาจจะถูกทำลายด้วย ไฟ น้ำ หรือลม ก็ตาม เนื่องจากสัตว์เหล่านี้ยังไม่หมดกรรมที่ตนจะ
ต้องใช้ จึงถูกลมกรรมพัดจากจักรวาลที่ถูกทำลายนั้นไปบังเกิดในจักรวาลต่างๆ ที่ยังไม่ถูกทำลาย และไป
บังเกิดในภพภูมิต่างๆ ตามกรรมของตนตามที่ตนเคยเป็นในจักรวาลเดิม สัตว์ใดมีกรรมที่จะต้องมาเป็นสัตว์
ก็มาบังเกิดเป็นสัตว์ในจักรวาลที่ไปบังเกิดใหม่นั้น
สัตว์ในยุคแรกก็เช่นเดียวกับมนุษย์และพืชทั้งหลาย คือเกิดแบบโอปปาติกะ เกิดแล้วโตเต็มวัยทันที
ไม่ต้องอาศัยพ่อแม่เป็นที่เกิด การจะเกิดเป็นสัตว์อะไรนั้นขึ้นอยู่กับวิบากกรรมที่มี โลภะ โทสะ โมหะ ปรุงแต่ง
ซึ่งโดยปกติของสัตว์ดิรัจฉานนั้น จะมีโมหะเป็นหลัก ถ้าหากว่ามีโทสะผสมมากมีโลภะเพียงเล็กน้อย ก็จะ
เกิดเป็นสัตว์กินเนื้อ ถ้ามีโลภะมากมีโทสะเพียงเล็กน้อย ก็จะเกิดเป็นสัตว์กินพืช และถ้าหากมีทั้งโทสะและ
โลภะก็จะเกิดเป็นสัตว์ที่กินทั้งพืชทั้งเนื้อ
สัดส่วนของ โลภะ โทสะ โมหะ ส่งผลทำให้เป็นสัตว์ต่างๆ หลากหลายกันไปนั้น เพื่อให้เข้าใจง่าย
จะขอเปรียบเทียบกับการผสมสี ปกติแม่สีมีอยู่ 3 สี คือ สีแดง สีน้ำเงิน สีเหลือง เมื่อนำมาผสมกันเข้าแล้ว
บทที่ 4 การกำเนิด จั ก ร ว า ล โ ล ก และ มนุษย์ DOU 95