ข้อความต้นฉบับในหน้า
ต่อมาท่านเดินทางไปศึกษาในระดับปริญญาโทที่ประเทศอินเดีย 4 ปี เมื่อจบการศึกษาและกลับเมืองไทยแล้วมี
ความคิดที่จะลาสิกขา จึงไปกราบเรียนหลวงพ่อที่วัดนากลาง หลวงพ่อท่านนั้นจึงพาท่านออกเดินธุดงค์ใน
ป่าเป็นเวลากว่า 10 ปี ได้เรียนกรรมฐานและวิชาแพทย์แผนโบราณ จนมีความชำนาญ แล้วอยู่ช่วย
หลวงพ่อท่านนั้นรักษาคนป่วยอยู่หลายปี
ในปี พ.ศ. 2534 ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสวัดวัดหนึ่ง ได้สร้างกุฏิที่พักสงฆ์ 4 หลัง ทำถนนคอนกรีต
ทั่วบริเวณวัด บูรณะหอระฆังและศาลาการเปรียญ งานชิ้นสุดท้ายที่ท่านตั้งใจจะทำ คือสร้างโรงเรียน
พระปริยัติธรรม แต่ยังไม่ทันสร้างเสร็จ ท่านก็มรณภาพ ในขณะที่กำลังนอนพักผ่อนหลังจาก
ฉันเพลเสร็จ ก่อนที่ท่านจะมรณภาพ 1 เดือน ท่านป่วยเป็นโรคฝีบ่อยมาก แม้แต่ 2 อาทิตย์สุดท้าย
ก็ยังไปผ่าฝีที่อก ซึ่งแผลก็เกือบจะหายเป็นปกติ
หลังจากมรณภาพแล้ว มัคนายกวัดนำร่างท่านไปที่โรงพยาบาล และปั๊มหัวใจ เพื่อจะได้แน่ใจว่า
ท่านสิ้นลมแล้วจริงๆ เมื่อรู้ว่าท่านมรณภาพแล้วจึงคิดจะฉีดยากันศพเน่า แต่เมื่อหมอจะทำการฉีดยา
ไฟฟ้าในบริเวณนั้นก็ดับลงอย่างกะทันหัน จึงหันไปใช้ไฟสำรองแต่ก็ดับอีก ลูกศิษย์จึงขอให้หมอไปฉีดที่วัด
โดยนำร่างของท่านกลับไปไว้ที่วัด ก็สามารถฉีดได้ แต่เมื่อฉีดแล้วปรากฏว่า ไฟฟ้าดับทั่วทั้งอำเภอ
พร้อมกับเกิดลมและฝนปั่นป่วนขึ้นทั้งอำเภอ
สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์เหล่านั้น เป็นเพราะขณะที่ท่านมรณภาพ ท่านยังไม่อยากตาย และไม่คิด
ว่าจะตาย อยากจะทำงานพระศาสนาต่อไป ดังนั้นเมื่อกายละเอียดหลุดออกจากร่าง ท่านเห็นร่างของ
ตนเองก็พยายามจะกลับเข้าร่างแต่ไม่สำเร็จ จึงตามร่างของตัวเอง และเมื่อได้ยินว่า จะมีการฉีดยากันศพเน่า
ท่านจึงไม่ยอมเพราะอยากจะเข้าร่าง ได้พยายามอยู่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จึงอธิษฐานจิตนึกถึงบุญที่ ทำ
ไว้ในพระศาสนา ว่าอย่าให้ใครฉีดยากันเน่าได้ เพราะมีความเข้าใจว่าหากฉีดยาจะทำให้ไม่สามารถกลับ
เข้าร่างได้
ด้วยอานุภาพบุญของท่านจึงทำให้ไฟฟ้าดับจนกระทั่งเมื่อร่างของท่านถูกนำไปที่วัดท่านก็ตามไปด้วย
และเริ่มยอมรับความจริงว่า ตนเองหมดอายุขัยแล้ว จึงนึกถึงบุญที่ทำมาในพระศาสนา ทำให้กายมนุษย์
ละเอียดค่อยๆ เปลี่ยนจากพระ กลายเป็นกายทิพย์ที่มีเครื่องประดับ มีเทวรถพร้อมบริวารมารอรับท่าน
และพาไปอยู่ที่สวรรค์ชั้นยามา
เพราะเหตุที่ท่านมรณภาพ เหล่ารุกขเทวดา ภุมมเทวา อากาสเทวา ที่อยู่บริเวณนั้นต่างก็เสียใจ
และอาลัยในการจากไปของท่าน เนื่องจากท่านเคยอุทิศส่วนกุศลให้ จึงได้รับบุญจากท่านเสมอ เมื่อท่านไป
แล้วไม่รู้จะไปอนุโมทนาบุญกับใคร จึงบันดาลให้ฝนตกหนักเหมือนฟ้ารั่ว จนเป็นเหตุให้ไฟดับทั้งอำเภอ
เพราะไฟช็อต
สาเหตุที่ท่านป่วยเป็นฝีบ่อยๆ เพราะกรรมที่หักโหมงานในปัจจุบัน และวจีกรรมในอดีตชาติ
ที่ท่านเคยบวชเป็นสามเณร แล้วดื้อรั้นเถียงพระอาจารย์แบบข้างๆ คูๆ เวลาที่พระอาจารย์สั่งสอน จึงทำให้
บทที่ 7 ก ร ณี ศึ ก ษ า ก า ร เ วี ย น ว่ า ย ต า ย เ กิ ด ข อ ง สั ต ว โ ล ก DOU 143