การศึกษาจักรวาลวิทยาและกรรม GL 101 จักรวาลวิทยา หน้า 180
หน้าที่ 180 / 184

สรุปเนื้อหา

บทนี้สำรวจลำดับเหตุการณ์ที่ส่งผลให้เกิดสรรพสิ่งและการเสื่อมถอยของมนุษย์ โดยเน้นความสัมพันธ์ระหว่างกรรมและธรรมชาติที่มีผลต่ออายุมนุษย์และสิ่งแวดล้อม การกระทำที่ไม่ดีทำให้สรรพสิ่งไม่บริสุทธิ์ และสุดท้ายส่งผลต่ออายุของมนุษย์ บทนี้ยังกล่าวถึงการเกิดและความเสื่อมทรามในโลก และการช่วยให้มนุษย์ปรับปรุงจิตใจตนเองเพื่อนำไปสู่การบรรลุพระนิพพาน โดยอ้างอิงถึงกระบวนการเวียนว่ายตายเกิดในโลกแห่งต่าง ๆ ที่มนุษย์จะสัมผัส.

หัวข้อประเด็น

-การเกิดสรรพสิ่ง
-ผลของกรรมต่อมนุษย์
-การเสื่อมถอยของมนุษย์
-การเวียนว่ายตายเกิด
-การสร้างความดีเพื่อพ้นจากกิเลส

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ก็ต้องมีการขับของเสียออกมา จึงปรากฏเพศหญิงและชายตามอำนาจแห่งวิบากกรรมในอดีต จากนั้น เข้าสู่ยุคของการตั้งบ้านเรือน การประกอบอาชีพ และการปกครอง ธาตุที่เคยบริสุทธิ์ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย อำนาจแห่งอกุศลกรรมของมนุษย์ บทนี้ทำให้เราเห็นลำดับขั้นตอนของการเกิดสรรพสัตว์สรรพสิ่ง ด้วยอำนาจแห่งอกุศลกรรม เรา ควรจะทำความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ เพื่อจะได้เกิดความสลด เบื่อหน่าย และเร่งกำจัดกิเลสที่ ครอบงำจิตใจ ของเรา ด้วยการสั่งสมความดีให้ยิ่งขึ้นไป จะได้หมดกิเลสไปสู่ฝั่งแห่งพระนิพพานตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บทที่ 5 เราศึกษาเรื่องของการเสื่อมถอยของมนุษย์อันเนื่องมาจากศีลธรรม เมื่อจักรวาล โลก ตั้งอยู่ มีมนุษย์ และสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้น ความเสื่อมก็เกิดขึ้นมาตามลำดับ มนุษย์แต่เดิมมีอายุยืนยาวเป็นอสงไขยปี อายุมนุษย์ก็เริ่มเสื่อมถอยลงเรื่อย แต่การเสื่อมถอยนั้นจะใช้ ระยะเวลาที่ยาวนาน ด้วยอำนาจแห่งการกระทำของมนุษย์เอง ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นการกระทำชั่ว ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ทำให้ธาตุในตัวมนุษย์ไม่บริสุทธิ์ ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมไม่บริสุทธิ์ เมื่อสิ่งแวดล้อมไม่บริสุทธิ์ จึงส่งผลให้อายุมนุษย์ลดลง สิ่งแวดล้อมก็เสื่อมลงจนกระทั่งถึงที่สุด จนกระทั่งยุคมิคสัญญี คือ ยุคที่เกิด การฆ่าทำลายล้างกันอย่างรุนแรง กระทั่งมีบุคคลกลุ่มหนึ่งหลบหนีไปและตั้งใจประกอบกุศลกรรม ทำให้ธาตุในตัวบริสุทธิ์ขึ้น สิ่งแวดล้อมต่างๆ กลับสมบูรณ์ขึ้นมา จนกระทั่งอายุของมนุษย์เจริญขึ้นอีก เป็น วงจรอย่างนี้ยาวนานนับเป็นล้านๆ ปี นับหน่วยเวลาไม่ได้ เรื่องนี้ทำให้เราทราบเหตุแห่งความเสื่อมถอย ของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม วนเวียนซ้ำซาก และตราบใดที่มนุษย์ไม่สั่งสมความดีอย่างต่อเนื่อง ก็จะกลับ มาตกต่ำอยู่ร่ำไป บทที่ 6 เราศึกษาเรื่องขบวนการแตกทำลายของโลก ซึ่งมีสิ่งที่ทำลายอยู่ 3 สิ่งด้วยกัน คือ ทำลายด้วยไฟ ด้วยน้ำ ด้วยลม เหตุแห่งการทำลายก็คงไม่พ้นกิเลสภายในตัวของมนุษย์ ที่กระทำอกุศลกรรม จนถึงที่สุด ทำให้สิ่งแวดล้อม ธาตุหยาบทั้งหลายไม่สมดุล เกิดวิปริต จนทำให้ธาตุตัวใดตัวหนึ่งกำเริบและ มีอานุภาพในการทำลายสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย ที่ล้วนประกอบจากธาตุ ย่อมมีวันแตกทำลาย ไม่ว่า วัตถุนั้นจะมีขนาดใหญ่เพียงใด ก็จักต้องถูกทำลายหมด แม้จักรวาลของเราก็ต้องถูกทำลาย มีเพียง การสั่งสมความดีเท่านั้นที่จะทำให้พ้นจากการถูกทำลายนี้ได้ บทที่ 7 เราศึกษาตัวอย่างของการเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์จากกรณีศึกษาในโรงเรียน อนุบาลฝันในฝันวิทยา ซึ่งตัดตอนมาบางส่วนเพื่อให้เห็นภาพการเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่างๆ โดยมี มนุสสภูมิเป็นศูนย์กลางในการสร้างความดีและความชั่ว เมื่อละโลกแล้วก็ย่อมไปเกิดในภพภูมิต่างๆในจักรวาล ตามอำนาจแห่งกุศลและอกุศลกรรมที่ทำไว้ ทำให้เราทราบว่า เมื่อเราตายแล้วไม่ได้สูญหายไปไหน ตราบใดที่ ยังไม่หมดกิเลสเข้าพระนิพพาน ตราบนั้นก็จะต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพภูมิในจักรวาล ซึ่งมีนับไม่ถ้วน โดยที่แต่ละจักรวาล ก็มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปในที่สุดเช่นกัน เมื่อเราทราบอย่างนี้จะได้เร่ง สร้างความดีให้ยิ่งขึ้นไป เพื่อดับกิเลสในใจ ไปสู่ฝั่งแห่งพระนิพพานให้ได้ 170 DOU บ ท ที่ 8 ส รุ ป ส า ร ะ สำ คั ญ จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า จั ก ร ว า ล วิทยา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More