ข้อความต้นฉบับในหน้า
ศาสนาพราหมณ์
เมื่อพูดถึงโลกก็จะต้องมีผู้สร้าง เพราะโลกไม่สามารถเกิดขึ้นลอยๆ ได้ ดังนั้นในศาสนาพราหมณ์
จึงมีความเชื่อว่าการสร้างโลกเป็นหน้าที่ของพระเจ้า และพระเจ้าผู้ทำหน้าที่สร้างโลกได้แก่ พระพรหม
เมื่อพระพรหมสร้างโลกขึ้นมาแล้ว ระหว่างที่โลกกำลังดำเนินไปได้เกิดอธรรมมีอำนาจเหนือธรรมะ
ทำให้เกิดกลียุค เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ความทุกข์เดือดร้อนนานาประการ เมื่อภาวะเช่นนี้เกิดขึ้น
ก็เป็นหน้าที่ของพระวิษณุที่จะอวตารมาในโลกมนุษย์ เพื่อพิทักษ์ธรรม โดยได้เป็นนารายณ์ 10 ปาง
อวตารมาคุ้มครองโลก คอยดูแลให้ชีวิตในโลกดำเนินไปตามปกติ
เมื่อโลกดำเนินไป ชีวาตมัน (วิญญาณ) ที่ยังไม่หลุดพ้นก็เวียนว่ายตายเกิดหลายภพหลายชาติจน
ไม่ได้พักผ่อน ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของพระศิวะ หรือพระอิศวรที่จะต้องทำลายโลก เพื่อให้ชีวาตมันที่ยังไม่
หลุดพ้นเหล่านี้ได้พักผ่อน
เมื่อโลกถูกทำลายชีวาตมันจะสลบไสลไปชั่วคราวไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด ครั้นถึงเวลาอันสมควร
พระพรหมก็จะสร้างโลกขึ้นมาใหม่ ชีวาตมันที่สลบไสลไปชั่วคราวก็จะได้ร่างใหม่ ซึ่งจะเป็นอะไรนั้นขึ้นอยู่
กับกรรมที่ทำไว้ในสมัยที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในโลกเก่า เช่น เป็นกษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ จัณฑาล เป็นต้น
ศาสนาคริสต์
ศาสนาคริสต์สอนว่า พระยะโฮวาห์ทรงสร้างโลกและสรรพสิ่งจากความว่างเปล่า คือ มิได้สร้าง
จากสิ่งที่เห็นได้หรือจากวัตถุใดๆ พระองค์ทรงสร้างด้วยพระดำรัส ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์
มีกล่าวไว้ในพระคัมภีร์อย่างชัดเจนว่า สรรพสิ่งทั้งปวงรวมทั้งโลกและมนุษย์ เกิดจากการสร้าง
ของพระเจ้าทั้งสิ้น ในคัมภีร์ได้กล่าวถึงการสร้างของพระองค์ตามลำดับดังนี้
ทรงสร้างขอบเขตของโลก บันดาลให้มีกลางวันและกลางคืน
ทรงให้มีดวงสว่างเพื่อแยกกลางวันกับกลางคืน และเป็นเครื่องหมายบอกฤดู วัน
เดือน ปี (ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆ )
วันที่ 1
วันที่ 2
ทรงสร้างท้องฟ้า
วันที่ 3
ทรงสร้างแผ่นดิน ทะเล แล้วบันดาลให้เกิดพืชบนแผ่นดิน
วันที่ 4
วันที่ 5
วันที่ 6
วันที่ 7
เป็นวันบริสุทธิ์ ที่ทรงหยุดพักจากการงานทั้งสิ้น
ทรงสร้างสัตว์ในทะเลและสัตว์ในอากาศ
ทรงสร้างสัตว์บนแผ่นดินตามชนิดของมัน แล้วทรงสร้างมนุษย์ชายหญิงให้เป็น
เจ้าของสิ่งต่างๆ เหล่านั้น
บ ท ที่ 8 สรุปสาระสำคั ญ จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า จั ก ร ว า ล วิ ท ย า DOU 161