การเกิดขึ้นของจักรวาลและมนุษย์ในพุทธศาสนา GL 101 จักรวาลวิทยา หน้า 91
หน้าที่ 91 / 184

สรุปเนื้อหา

จักรวาลและโลกมีการเกิดขึ้นและถูกทำลายไปนับครั้งไม่ถ้วน ในแต่ละช่วงเวลาของการเกิด ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายมีระยะเวลาที่ยาวนานมาก ไม่สามารถกำหนดได้ด้วยหน่วยทางวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ พุทธศาสนาเสนอวิธีการคำนวณอายุโลกและจักรวาลด้วยคำว่า 'อสงไขย' และ 'กัป' พระพุทธศาสนายังสอนให้ใช้เหตุและผลในการเชื่อ และย้ำว่าอย่าเชื่อเพียงเพราะคำบอกเล่าหรือความเชื่อที่มีอยู่ แม้นการกำเนิดมนุษย์จะมาจากพรหมชั้นอาภัสสราพรหม โดยมีลักษณะพิเศษและอายุยืนยาว จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นมนุษย์ในรูปแบบที่เรารู้จักปัจจุบัน

หัวข้อประเด็น

-การเกิดขึ้นของจักรวาล
-วงจรชีวิต
-พุทธศาสนาและการใช้เหตุผล
-กำเนิดมนุษย์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

แนวคิด 1. จักรวาล และโลก มีการเกิดขึ้นและถูกทำลายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ในแต่ละช่วงเวลาของ การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปนั้น มีระยะเวลาที่ยาวนานมาก ไม่สามารถกำหนดนับได้ เป็นร้อยปี พันปี หมื่นปี แสนปี หรือล้านปี แต่นานกว่านั้นมาก อย่างไรก็ตาม พอจะอธิบาย วงจรการเกิดขึ้นของโลกได้ว่า เริ่มจากเมื่อโลกถูกไฟเผาผลาญไปหมดสิ้นแล้ว ในท้องจักรวาล ไม่มีสิ่งใดๆ เลย เป็นอากาศที่เวิ้งว้างว่างเปล่า ต่อมามีฝนตกลงมาจนท่วมทั่วท้องจักรวาล แแล้วระดับน้ำได้ลดลงเรื่อยๆ ทำให้ที่ตั้งของภพต่างๆ ปรากฏขึ้นตั้งแต่ชั้นพรหมลงมาจนถึง สวรรค์ชั้นที่ 1 คือชั้นจาตุมหาราชิกา และลดระดับลงจนถึงระดับที่คงที่ไม่ลดลงไปอีก เมื่อน้ำ นิ่งจึงเกิดการรวมตัวของตะกอนลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ตะกอนที่ลอยตัวอยู่เหนือผิวน้ำนี้ มีสีเหลือง มีรสหวาน และมีกลิ่นหอมเรียกว่า ง้วนดิน เมื่อพรหมลงมากินง้วนดินจึงกลายเป็นมนุษย์ ต่อมาเมื่อมนุษย์มีกิเลสมากขึ้นง้วนดินก็หมดไป อาหารหยาบเกิดขึ้นมาแทนและเป็นอาหาร ที่หยาบขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายมนุษย์ก็เปลี่ยนไปเกิดเป็นเพศหญิงเพศชาย มีการเสพเมถุนจึงเกิด การสร้างที่อยู่อาศัย และมีสัตว์ต่างๆ เกิดขึ้น กิเลสมนุษย์ก็ยิ่งทับทวียิ่งขึ้นๆ และเพราะมนุษย์ มีกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ทับทวี จึงเป็นเหตุให้โลกถูกทำลายด้วยไฟบ้าง ลมบ้าง หรือน้ำบ้าง วงจรของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปของโลกและจักรวาล จะวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เกิด ดับ เกิด ดับ นับครั้งไม่ถ้วน 2. การจะคำนวณนับระยะเวลาการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปของโลกและจักรวาล ด้วย หน่วยการนับทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถที่จะใช้วัดได้เพราะเป็นหน่วยที่เล็ก เกินไป แต่พุทธศาสนาเป็นศาสนาเดียวในโลก ที่มีคำที่ใช้สำหรับคำนวณอายุของโลกและ จักรวาลไว้ให้ นั่นคือคำว่า “อสงไขย” ซึ่งมีค่าเท่ากับ 10 และคำว่า “กัป” ซึ่งมี 4 อย่าง คือ อายุกัป อันตรกัป อสงไขยกัป และมหากัป 3. พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาของผู้มีปัญญาเป็นศาสนาที่ว่าด้วยเหตุและผล พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ทรงสอนให้ใครเชื่ออะไรง่ายๆ ให้พิจารณาและพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วจึงเชื่อ ทรงให้หลักไว้ว่า อย่าเชื่อเพียงเพราะว่า 1. ได้ฟังมา 2. โบราณเล่าสืบต่อกันมา 3. คำร่ำลือ 4. เพราะตำรา 5. การเดา 6. การคาดคะเน 7. เชื่อตามที่เห็น 8. สอดคล้องกับความเชื่อเดิม 9. ผู้พูดน่าเชื่อถือ 10. เป็นครู อาจารย์ของตนเอง 4. กำเนิดมนุษย์นั้นมาจากพรหมชั้นอาภัสสราพรหม มนุษย์ในยุคแรกเกิดแบบโอปปาติกะ เกิดแล้ว โตทันทีไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ ไม่มีเพศ ร่างกายมีแสงสว่างในตัว เหาะได้ มีปีติเป็นอาหาร มีเครื่องนุ่งห่มแบบพรหม มีอายุยืนยาว ต่อมาด้วยความหอมของง้วนดินทำให้อยากลิ้มลอง บทที่ 4 การกำเนิด จั ก ร ว า ล โ ล ก และ มนุษย์ DOU 81
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More