ข้อธรรมจากพระพุทธองค์ในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด GL 101 จักรวาลวิทยา หน้า 164
หน้าที่ 164 / 184

สรุปเนื้อหา

พระพุทธองค์ตรัสเกี่ยวกับน้ำตาที่หลั่งไหลออกตามการพลัดพรากจากสิ่งที่รักในสังสารวัฏ เปรียบเทียบกับน้ำในมหาสมุทร โดยทรงสอนให้ภิกษุทั้งหลายเข้าใจถึงการเกิดขึ้นและเสื่อมสลายของชีวิต และความเป็นจริงที่ต้องเผชิญ ซึ่งคือความทุกข์ที่เกิดจากการยึดมั่นที่ไม่ได้ผลลัพธ์แท้จริง การเบื่อหน่ายในสังขารเป็นวิธีหนึ่งในการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร การรู้เห็นธรรมเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่นิพพาน ซึ่งทุกท่านควรให้ความสำคัญในการปฏิบัติธรรมและการเข้าใจถึงความเป็นจริงของชีวิตเพื่อคลายความทุกข์

หัวข้อประเด็น

-การพลัดพราก
-การเวียนว่ายตายเกิด
-น้ำตาและความทุกข์
-การเบื่อหน่ายในสังขาร
-การรู้เห็นธรรมและนิพพาน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระพุทธองค์ได้ตรัสแก่เหล่าภิกษุใน อัสสุสูตร ขณะประทับ ณ พระเชตวันวิหารในกรุงสาวัตถีว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถูกละๆ พวกเธอทราบธรรมที่เราแสดงแล้วอย่างนี้ ถูกแล้ว น้ำตาที่หลั่งไหล ออกของพวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมา คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะประสบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะพลัดพราก จากสิ่งที่พอใจ โดยกาลนานนี้แหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 ไม่มากกว่าเลย พวกเธอประสบ มรณกรรมของมารดาตลอดกาลนาน น้ำตาที่หลั่งไหลออกของเธอเหล่านั้น ผู้ประสบมรณกรรมของมารดา คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะไม่ประสบสิ่งที่พอใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจนั่นแหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 ไม่มากกว่าเลย พวกเธอได้ประสบมรณกรรมของบิดา ของพี่ชาย น้องชาย พี่สาว น้องสาว ของบุตร ของธิดา ความเสื่อมแห่งญาติ ความเสื่อมแห่งโภคะ ได้ประสบความเสื่อมเพราะโรค ตลอดกาลนาน น้ำตาที่หลั่งออกของเธอเหล่านั้นผู้ประสบความเสื่อมเพราะโรค คร่ำครวญอยู่ เพราะประ สบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจนั่นแหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 ไม่มากกว่าเลย ข้อนั้นเป็นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น” ทรงเปรียบน้ำนมที่ดื่มเข้าไปในสังสารวัฏกับน้ำในมหาสมุทร ใน ขีรสูตร” ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถูกละๆ พวกเธอทราบธรรมที่เราแสดงแล้วอย่างนี้ ถูกแล้ว น้ำนมมารดาที่ พวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมาอยู่โดยกาลนาน ดื่มแล้วนั้นมากกว่า น้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 ไม่มากกว่าเลย ข้อนั้น เพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ” ทรงตรัสถึงโครงกระดูกของสัตว์ที่เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ ใน บุคคลสูตร ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ เมื่อบุคคลท่องเที่ยวไป มาอยู่ตลอดกัปหนึ่ง จึงมีโครงกระดูก ร่างกระดูก กองกระดูก ใหญ่เท่าภูเขาเวปุลละนี้ ถ้ากองกระดูกนั้น พึงเป็นของที่จะขนมารวมกันได้ และกระดูกที่ได้สั่งสมไว้แล้ว ก็ไม่พึงหมดไป ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารกำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ” ทรงตรัสถึงเลือดที่ไหลออกจากกาย ใน ซึ่งสมัตตาสูตร ว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ถูกละๆ พวกเธอทราบธรรมที่เราแสดงแล้วอย่างนี้ ถูกแล้ว โลหิตที่หลั่งไหล ออกของพวกเธอ ผู้ท่องเที่ยวไปมาซึ่งถูกตัดศีรษะโดยกาลนาน นี้แหละมากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง 4 อัสสสูตร, สังยุตตนิกาย นิทานวรรค, มก. เล่ม 26 ข้อ 425-426 หน้า 509-511. * มีรสูตร, สังยุตตนิกาย นิทานวรรค, มก. เล่ม 26 ข้อ 428 หน้า 512-513. บุคคลสูตร, สังยุตตนิกาย นิทานวรรค, มก. เล่ม 26 ข้อ 441 หน้า 521. ตั้งสมัตตาสูตร, สังยุตตนิกาย นิทานวรรค, มก. เล่ม 26 ข้อ 448 หน้า 527. 154 DOU บ ท ที่ 7 ก ร ณี ศึ ก ษ า การเวียนว่ายตายเกิด ข อ ง สั ต ว โ ล ก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More