ข้อความต้นฉบับในหน้า
ต่างๆ ขึ้น ทำการปล้นทรัพย์สินของผู้อื่น และฆ่าผู้เป็นเจ้าของทรัพย์ด้วยการตัดศีรษะบ้าง การฆ่ากันจึง
ปรากฏขึ้นอย่างแพร่หลาย
และเมื่อมีการลงโทษประหารชีวิตผู้ที่เป็นขโมย ครั้นเมื่อถูกจับได้และถูกสอบถาม ผู้ที่เป็นขโมยก็
จะกล่าวเท็จปฏิเสธว่าตนไม่ได้ขโมย การกล่าวคำเท็จจึงเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายตามมา เหตุที่เกิดขึ้นเหล่านี้
ไม่ว่าจะเป็นการขโมยทรัพย์ การฆ่าผู้อื่น การกล่าวเท็จ ล้วนมาจากการที่พระราชาไม่ได้ประพฤติ
จักกวัตติวัตรอย่างถูกต้อง เพราะไม่ได้ทรงพระราชทานทรัพย์แก่ผู้ไม่มีทรัพย์มาแต่ต้น
เมื่อมนุษย์ต่างพากันทำปาณาติบาต และกล่าวมุสาวาทกันเป็นอันมาก จึงทำให้อายุและ
ผิวพรรณเสื่อมลง เมื่ออายุและผิวพรรณของมนุษย์ยุคนี้เสื่อมลง บุตรของพวกเขาก็มีอายุเสื่อมลงไปด้วย
บุตรของมนุษย์ที่มีอายุ 80,000 ปี จะมีอายุเหลือ 40,000 ปี เมื่อมนุษย์มีอายุ 40,000 ปี ผู้ที่ลักขโมย
ทรัพย์ผู้อื่นครั้นถูกจับได้ก็จะกล่าวเท็จทั้งๆ ที่รู้ จึงทำให้ผิวพรรณ และอายุเสื่อมลงไปอีก ส่งผลให้บุตรของ
ผู้ที่มีอายุ 40,000 ปี มีอายุเหลือ 20,000 ปี
เมื่ออายุของมนุษย์มีอายุ 20,000 ปี คนทั้งหลายพากันกล่าวคำส่อเสียด เช่น เมื่อขโมยทรัพย์
ผู้อื่นแล้วถูกจับได้ ก็จะกล่าวซัดทอดว่าผู้นั้นขโมยของผู้นี้ เพราะเหตุแห่งการผิดศีลนี้เอง ผิวพรรณและ
อายุของมนุษย์จึงเสื่อมลงไปอีก โดยบุตรของผู้ที่มีอายุ 20,000 ปี จะมีอายุเหลือ 10,000 ปี เมื่อมนุษย์อายุ
10,000 ปี ผิวพรรณจะเสื่อมลงมามาก จะมีทั้งผู้ที่มีผิวพรรณดี และผู้ที่มีผิวพรรณไม่ดี พวกที่มีผิวพรรณไม่ดี
จึงเพ่งเล็งพวกที่มีผิวพรรณดี และได้ประพฤติล่วงเกินภรรยาของผู้อื่น
เพราะเหตุที่มนุษย์กระทำกรรมหยาบช้าขึ้นทุกที อายุและวรรณะจึงเสื่อมลงตามลำดับ
ทำให้บุตรของผู้ที่มีอายุ 10,000 ปี อายุลดลงเหลือ 5,000 ปี ครั้นเมื่อมนุษย์มีอายุเหลือ 5,000 ปี ธรรม
2 ประการ ก็แพร่หลาย คือ ผรุสวาจา และสัมผัปปลาปะ (คำหยาบและคำเพ้อเจ้อ) ดังนั้นอายุและผิวพรรณ
จึงเสื่อมลงไปอีก บุตรของผู้ที่มีอายุ 5,000 ปี จึงเหลือ 2,500 ปีบ้าง 2,000 ปีบ้าง
ครั้นเมื่อมนุษย์มีอายุ 2,000 ปี อภิชฌาและพยาบาท คือ ความคิดเพ่งเล็งในทรัพย์ของผู้อื่น
และความคิดเบียดเบียนก็แพร่หลายขึ้น ด้วยเหตุนี้อายุและวรรณะจึงเสื่อมลงไปอีก โดยบุตรของผู้ที่มีอายุ 2,000
ปี ก็ถอยลงเหลือ 1,000 ปี เมื่อมนุษย์มีอายุเหลือ 1,000 ปี มิจฉาทิฏฐิ คือ ความเห็นผิดได้แพร่หลายขึ้น
อายุและวรรณะจึงเสื่อมลง โดยบุตรของผู้ที่มีอายุ 1,000 ปี จะมีอายุเหลือ 500 ปี
เมื่ออายุมนุษย์ลดลงมาถึง 500 ปี ได้ปรากฏธรรม 3 ประการ แพร่หลายในหมู่มนุษย์ คือ มีความ
กำหนัดในฐานะอันไม่ชอบธรรม (อธรรมราคะ) มีความโลภไม่มีที่สิ้นสุด (วิสมโลภะ) และกำหนัดด้วย
อำนาจความพอใจผิดธรรมดา (มิจฉาธรรม) เพราะธรรมทั้ง 3 นี้แพร่หลาย บุตรของมนุษย์ที่มีอายุ 500 ปี
จึงมีอายุเหลือ 250 ปีบ้าง 200 ปีบ้าง
เมื่อมนุษย์มีอายุเหลือ 250 ปี เหล่ามนุษย์จะพากันไม่ปฏิบัติชอบในมารดา ในบิดา ในสมณพราหมณ์
และไม่อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล
บ า ที่ 5 ความเสื่อม
บ ท ที 5 ค ว า ม เ สื อ ม ข อ ง จั ก ร ว า ล
DOU 109