ความเสื่อมขั้นวิกฤติในมนุษย์ GL 101 จักรวาลวิทยา หน้า 120
หน้าที่ 120 / 184

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความเสื่อมของมนุษย์จากการกระทำที่ไม่ดี โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มนุษย์มีอายุต่ำและเกิดการฆ่าฟันกันอย่างหนักหน่วง เมื่อถึงจุดวิกฤติ มนุษย์จึงหันมาสร้างกุศลกรรม บทความพูดถึงความสำคัญของการทำความดีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและหยุดอาการเสื่อมสลายโดยเฉพาะการเลิกทำร้ายกัน และหันมาทำเพื่อตนเองและผู้อื่นในสังคม หลังจากประสบปัญหาการฆ่าฟันกันในช่วงเวลา 7 วัน มนุษย์สามารถฟื้นฟูชีวิตให้ดียิ่งขึ้นได้จากการทำกุศลธรรมและหลีกเลี่ยงการประพฤติที่เป็นอกุศล.

หัวข้อประเด็น

-ความเสื่อมของมนุษย์
-การกระทำอกุศล
-สัตถันตรกัป
-การทำกุศลกรรม
-การฟื้นฟูชีวิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

5.5 ความเสื่อมขั้นวิกฤติ เพราะเหตุที่มนุษย์พากันประพฤติในสิ่งที่เป็นอกุศล ละสิ่งที่เป็นกุศล อายุและผิวพรรณของมนุษย์ จึงเสื่อมลงไปตามลำดับ จนกระทั่งเมื่อมนุษย์มีอายุเหลือเพียง 10 ปี เมื่อมาถึงยุคนี้ มนุษย์เพศหญิงจะ มีสามีตั้งแต่อายุเพียง 5 ปี อาหารต่างๆ ที่ประณีตที่เคยมี คือ เนยใส เนยข้น น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และเกลือ จะอันตรธานหายไปจนหมดสิ้น อาหารที่ดีที่สุดในยุคนั้น คือ หญ้ากับแก้ ซึ่งเปรียบได้กับ ข้าวสาลี ข้าวสุก และเนื้อที่ถือว่าเป็นอาหารอย่างดีที่สุดในยุคปัจจุบัน ในยุคนี้ กุศลกรรมบถ 10 จะไม่มีเหลือเลย โลกจะมีแต่อกุศลกรรมบถ 10 มนุษย์ทั้งหลายต่าง ไม่ปฏิบัติชอบในมารดา ในบิดา ในสมณพราหมณ์ และไม่อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล แต่ทั้งที่เป็นเช่นนั้น มนุษย์ที่ประพฤติเช่นนั้นกลับได้รับการบูชาสรรเสริญ ทั้งนี้เป็นเพราะมนุษย์ไม่รู้ว่าสิ่งใดเป็นกุศล สิ่งใด เป็นอกุศล ยิ่งไปกว่านั้นมนุษย์ในยุคนี้จะเสพอสัทธรรม สมสู่กันไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาต มิตร ศิษย์ อาจารย์ ต่างสมสู่กันเช่นกับอาการของสัตว์ทั้งหลาย นอกจากจะสมสู่กันไม่เลือกหน้าแล้ว มนุษย์ในยุคนี้ยังเกิดความอาฆาต พยาบาท คิดร้ายต่อกัน อย่างแรงกล้า ประดุจพรานเห็นเนื้อ ด้วยความอาฆาตพยาบาทอย่างแรงกล้านี้เอง มนุษย์จึงต่างประหัต ประหารกัน โดยที่ไม่เลือกว่าผู้นั้นจะเป็น บิดา มารดา บุตร สามี ภรรยา พี่ หรือน้อง ต่างก็คว้าอาวุธ ของมีคมต่างๆ ฆ่ากันดุจเห็นกันและกันเป็นเช่นเนื้อ ช่วงของการเข่นฆ่ากันนี้เรียกว่า สัตถันตรกัป จะกินเวลา 7 วัน ระหว่าง 7 วัน ที่มนุษย์ฆ่ากันนี้ จะมีมนุษย์กลุ่มหนึ่งคิดว่า เราอย่าฆ่าใคร และใครอย่าฆ่าเรา แล้วชวนกันหลบเข้าไปอยู่ตามป่า ซอกเขา หรือระหว่างเกาะ ดำรงชีพโดยมีรากไม้และผลไม้ในป่าเป็นอาหาร จนกระทั่งครบ 7 วัน จึงออกมาจากที่ซ่อน เมื่อพบกันต่างก็สวมกอดกันและกัน แล้วก็คิดขึ้นว่า การที่ความเสื่อมทั้งหลายเกิดขึ้นนี้ เป็นเพราะ สมาทานธรรมที่เป็นอกุศล จึงชวนกันทำสิ่งที่เป็นกุศล งดเว้นปาณาติบาต เมื่อมนุษย์เหล่านั้นต่างก็ประพฤติกรรมอันเป็นกุศล อายุและผิวพรรณจึงเจริญขึ้น บุตรของ มนุษย์เหล่านั้นจึงมีอายุมากขึ้น เป็น 20 ปี และเมื่อมนุษย์ในยุคถัดๆ มา ประพฤติกุศลธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป อายุ และผิวพรรณของเขาก็เจริญขึ้นไปอีก บุตรของเขาก็อายุมากขึ้นเป็นลำดับ 5.6 สาเหตุแห่งความเสื่อมของมนุษย์ จากความเสื่อมที่เกิดขึ้นโดยลำดับนี้ จะเห็นว่า ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์ คือ เกิดจากการกระทำ ของมนุษย์ทั้งสิ้น และผู้ที่รับผลของการกระทำมากที่สุดก็คือมนุษย์เช่นกันที่เป็นทั้งนี้เพราะมนุษย์ต่างก็มีกิเลส ด้วยกันทั้งสิ้น ต่างแต่ว่ามีมากหรือน้อย ทั้งนี้ก็อยู่ที่ว่าใครจะรู้หรือไม่รู้ และเมื่อรู้แล้วคิดที่จะขจัดมันออกไป หรือเปล่า ถ้าไม่ขจัดมันออกไปตัวเราก็เหมือนหุ่นที่ถูกเชิดตลอดเวลา ซึ่งถ้ากิเลสมีมาก เราก็ไม่สามารถจะ ควบคุมตัวเราเองได้เลย จะทำอะไรก็ถูกกิเลสชักนำบังคับให้ทำ ด้วยความโลภ ความโกรธ และความหลง 110 DOU บ ท ที่ 5 ความเสื่ อ ม ข อ ง จั ก ร ว า ล
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More