ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลักการก่อสร้าง
๑) คำนึงถึงลักษณะการใช้งาน
ในแต่ละเขตที่เราวางผังก็จะมีพื้นที่การใช้งานแตกต่างกันไป
อาคารในแต่ละพื้นที่ก็จะมีลักษณะการใช้งานตามวัตถุประสงค์ของพื้นที่
นั้น เช่น โบสถ์อยู่ในเขตพุทธาวาส อาคารเรียน ศาลาฟังธรรม
โรงฉันอยู่ในเขตธัมมาวาส กุฏิที่พักอยู่ในเขตสังฆาวาส
เพราะฉะนั้น เราจะใช้งานอะไรก็ต้องคำนึงถึงลักษณะของมัน
ให้ดี ถ้าเป็นอาคารเรียนก็ควรออกแบบเป็นลักษณะของห้องเรียน ถ้า
เราจะใช้เป็นหอฉัน ก็ออกแบบให้เป็นลักษณะของหอฉัน
อาคารนั้นทํางานอะไรก็ออกแบบให้เหมาะแก่การทำงานนั้น
เราจะใช้
ปัจจุบันนี้ การใช้งานภายในวัดต่างจากเมื่อก่อนเยอะมาก
เมื่อก่อนมีศาลาไว้หลังหนึ่ง เราก็ใช้เป็นสถานที่สวดมนต์ เป็นหอฉัน
แล้วนานๆ ก็ใช้เป็นที่ตั้งศพทีหนึ่ง แต่เดี๋ยวนี้ลักษณะการใช้งานของวัด
ไม่ได้เป็นอย่างนั้น มีกิจกรรมหลายๆ อย่างได้เข้ามาอยู่ในวัด เช่น
ห้องสมุดก็เข้ามา บางครั้งข้าราชการมาขอใช้สถานที่ กิจกรรมลูกเสือ
ชาวบ้านมาขอใช้ หรือถ้ามีการประชุมประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่ก็มาขอใช้
ขณะเดียวกัน วัดเองก็มีกิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นเยอะแยะ เพื่อให้เข้า
กันได้กับสภาพสังคมปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ลักษณะการใช้งานของ
อาคารแต่ละหลังจึงมีลักษณะเฉพาะเกิดขึ้นตามมา
ขึ้นตามมา เราจึงต้องคำนึงให้
ดี อย่าเพิ่งไปเอารูปแบบเป็นตัวตั้งในการคิดว่าจะต้องมีช่อฟ้า ใบระกา
มีโน่นมีนี่ เราต้องเอาลักษณะการใช้งานเป็นตัวตั้งในการคิด ส่วนว่า
รูปแบบเป็นอย่างไรนั้นค่อยมาหารือกันอีกที ถ้าเริ่มต้นการคิดที่ตรงนี้
จะทําให้การทํางานของเราคล่องขึ้น
ขอยกตัวอย่างที่วัดของเราให้ดู ที่วัดของเรานี้เจอปัญหาว่า
การก่อสร้าง
๒๓