ข้อความต้นฉบับในหน้า
๖๐
คราวนี้แม้ว่าเราจะให้การศึกษาทั้งปริยัติและปฏิบัติจริงๆ ได้
แล้ว เราก็ต้องปฏิบัติให้ดูด้วย เราบอกให้เขาไม่คบคนพาล เราเองก็
ต้องไม่คบคนพาลด้วย เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ไม่ว่าจะมีฝีมือขนาด
ไหน แต่ถ้าเป็นคนเกเร เป็นนักเลงตัวแสบ อย่าไปใช้งาน ถ้าใช้งาน
เมื่อไรนั่นแหละคบคนพาลแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว สามเณร เด็กวัด
อุบาสก-อุบาสิกาก็จะคิดว่า คนพาลนี่คบไว้ก็ไม่เสียหลายเหมือนกัน
ถ้าคนวัดคิดกันอย่างนี้ เดี๋ยววัดพัง เพราะเท่ากับทุบตู้พระไตรปิฎก
เสียแล้ว เพราะฉะนั้น คนงานที่มาช่วยวัด ถ้ารักจะอยู่ด้วยกัน ต้อง
ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน แล้วยิ่งถ้าพบว่ามีเรื่องชู้สาวด้วยแล้ว ต้อง
รีบเอาออกไปจากวัด ไม่อย่างนั้นวัดพัง สร้างมาเท่าไรก็ตาม เดี๋ยววัด
พังในพริบตา ถ้าเราเลี้ยงพวกแสบๆ เอาไว้
โดยสรุปแล้ว ถ้ารับคนเข้ามาแล้ว ไม่ว่าจะมีฝีมือขนาด
ต้องคัดคนเข้ามา เราต้องดูว่าคนไหนพอมี ไหน แต่ถ้าเป็นคน
แววว่าจะฝึกได้ พอคัดเข้ามาแล้วก็ต้องให้ เกเร เป็นนักเลงตัว
การศึกษาทั้งปริยัติและปฏิบัติ รวมทั้งตัว แสบ อย่าไปใช้งาน
เราเองก็ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เขาดูด้วย
ถ้าเราไม่สอน ไม่ให้การศึกษา เราอาจจะเจอแบบนี้ก็ได้ คือ
พอเขาลาสิกขาเสร็จ เขาเอาสบงจีวรออกเสร็จแล้ว ก็พับๆ แบบไม่เต็มใจ
ม้วนๆ กองเอาไว้ แล้วก็เอามือจบท่วมหัวต่อหน้า พูดเลยว่า “ชาตินี้
จะไม่กลับมาบวชอีกแล้ว เพราะบวชมาแล้วไม่เห็นได้อะไรเลย” ก่อน
รับใคร เราต้องประมาณกำลังให้ดี เพราะถ้าเรารับเขามาอยู่วัดแล้ว เขา
ไม่ได้ธรรมะอะไร เขาก็จะไม่รู้ว่าคุณของการบวชคืออะไร? เขาก็จะ
ค่าฝากเจ้าอาวาสเอาไว้ก่อนไป ถ้าเราไม่อยากให้มีเหตุการณ์ทำนองนี้
เรารับเข้ามาแล้วต้องฝึกเขาให้แกร่งทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติ แล้ววัดก็
จะได้กําลังสําคัญไว้ทํางานต่อไป
บุคคลเป็น สบาย